Ebooks, Audobooks and Classical Music from Liber Liber
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z





Web - Amazon

We provide Linux to the World


We support WINRAR [What is this] - [Download .exe file(s) for Windows]

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
SITEMAP
Audiobooks by Valerio Di Stefano: Single Download - Complete Download [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Alphabetical Download  [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Download Instructions

Make a donation: IBAN: IT36M0708677020000000008016 - BIC/SWIFT:  ICRAITRRU60 - VALERIO DI STEFANO or
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
ประเทศเดนมาร์ก - วิกิพีเดีย

ประเทศเดนมาร์ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Kongeriget Danmark
คองเงรีเก ดันมาร์ค

ราชอาณาจักรเดนมาร์ก
ธงชาติเดนมาร์ก ตราประจำชาติเดนมาร์ก
ธงชาติ ตราประจำชาติ
คำขวัญ: ไม่มี1
เพลงชาติ: Der er et yndigt land (ชาติ);
Kong Christian (หลวง)
แผนที่แสดงที่ตั้งของประเทศเดนมาร์ก
เมืองหลวง โคเปนเฮเกน
55°43′ N 12°34′ E
เมืองใหญ่สุด โคเปนเฮเกน
ภาษาราชการ ภาษาเดนมาร์ก2
รัฐบาล ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
 - ประมุข สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2
 - นายกรัฐมนตรี อันเดิร์ส ฟ็อก รัสมุสเซน
การรวมชาติ สมัยก่อนประวัติศาสตร์
เข้าร่วม EU 1 มกราคม พ.ศ. 2516
เนื้อที่
 - ทั้งหมด
 
 - พื้นน้ำ (%)
 
43,094 กม.² (อันดับที่ 1343)
16,639 3 ไมล์² 
1.6%3
ประชากร
 - 2548 ประมาณ
 - 2549

 - ความหนาแน่น
 
5,431,000 (อันดับที่ 109)
5,450,661

126/กม² (อันดับที่ 783)
326/ไมล์² 
GDP (PPP)
 - รวม
 - ต่อประชากร
2548 ค่าประมาณ
187.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ3 (อันดับที่ 45)
34,700 ดอลลาร์สหรัฐ3 (อันดับที่ 6)
HDI (2546) 0.941 (อันดับที่ 14) – สูง
สกุลเงิน โครนเดนมาร์ก (DKK)
เขตเวลา
 - ฤดูร้อน (DST)
CET3 (UTC+1)
รหัสอินเทอร์เน็ต .dk3
รหัสโทรศัพท์ +453
1คำขวัญของสมเด็จพระราชินีนาถ: Guds hjælp, Folkets kærlighed, Danmarks styrke (ภาษาอังกฤษ: God's help, People's love, Denmark's strength)
2เป็นภาษาราชการร่วมกับภาษากรีนแลนด์ในกรีนแลนด์ และเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาแฟโรในหมู่เกาะแฟโร ภาษาเยอรมันได้รับการรับรองเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่เซาท์จัตแลนด์ ส่วนภาษาเดนมาร์กได้รับการรับรองเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ในเยอรมนี
3ข้อมูลนี้ไม่รวมกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโร

ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (Kingdom of Denmark) (ภาษาเดนมาร์ก: Kongeriget Danmark) เป็นประเทศที่เล็กที่สุดและอยู่ทางใต้สุดของกลุ่มประเทศนอร์ดิก มีที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเยอรมนี (ดินแดนเพื่อนบ้านทางบกดินแดนเดียว) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสวีเดน และทางใต้ของนอร์เวย์ ประเทศนี้จัดอยู่ในภูมิภาคสแกนดิเนเวียในยุโรปเหนือ แต่ไม่ได้อยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย

เดนมาร์กมีพื้นที่จรดทะเลบอลติกและทะเลเหนือ และประกอบด้วยดินแดนบนคาบสมุทรจัตแลนด์ (ติดกับภาคเหนือของเยอรมนี) เกาะฟูเนน เกาะซีแลนด์ เกาะบอร์นโฮล์ม และเกาะเล็ก ๆ อีกหลายเกาะ บางครั้งมักเรียกรวมกันว่ากลุ่มเกาะเดนมาร์ก

เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีการปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป กรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของเดนมาร์กที่มีการปกครองตนเอง

สารบัญ

[แก้] ประวัติศาสตร์

เดนมาร์กเป็นราชอาณาจักรเก่าแก่ที่สุดในยุโรป โดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของเดนมาร์กเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1528 (ค.ศ.985) และได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี 2392 (ค.ศ.1849) ซึ่งเป็นปีที่รัฐธรรมนูญฉบับแรกได้ถูกร่างขึ้นราชอาณาจักรเดนมาร์กเคยครอบคลุมถึงสวีเดนและนอร์เวย์ จนกระทั่งสวีเดนแยกตัวออกไปเมื่อปี 2066 (ค.ศ.1523) และเดนมาร์กสูญเสียนอร์เวย์ให้แก่สวีเดนภายใต้สนธิสัญญา Kiel เมื่อปี 2357 (ค.ศ.1814) ภายหลังสงครามนโปเลียนยุติลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 2457 – 2461 (ค.ศ.1914-1918) เดนมาร์กได้ดำเนินนโยบายเป็นกลาง และเมื่อปี 2482 (ค.ศ.1939) ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2เดนมาร์กได้ประกาศความเป็นกลาง อย่างไรก็ดี เดนมาร์กถูกกองทัพเยอรมันเข้ายึดครองเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2483 (ค.ศ.1940) ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวของขบวนการต่อต้านของประชาชนชาวเดนมาร์กโดยตลอดช่วงสงครามฝ่ายเยอรมันได้ตอบโต้ด้วยการเข้าปกครองเดนมาร์กโดยตรง จนกระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม 2488 (ค.ศ.1945) เดนมาร์กถูกปลดปล่อยโดยกองกำลังพันธมิตร และภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เดนมาร์กได้รับรองความเป็นเอกราชของไอซ์แลนด์ (เป็นดินแดนหรือเกาะโพ้นทะเลที่เดนมาร์กได้ปกครองมาตั้งแต่ในสมัยที่เดนมาร์กยังคงรวมราชอาณาจักรกับนอร์เวย์) ซึ่งได้ประกาศตัวเป็นเอกราชเมื่อปี 2487 (ค.ศ.1944) และต่อมาเดนมาร์กได้ให้สิทธิในการปกครองตนเองแก่หมู่เกาะแฟโรและเกาะกรีนแลนด์ เมื่อปี 2491 (ค.ศ.1948) และปี 2522 (ค.ศ.1979) ตามลำดับ ในปี 2496 (ค.ศ.1953) รัฐธรรมนูญเดนมาร์กได้รับการแก้ไขซึ่งส่งผลทำให้มีบทบัญญัติใหม่ที่สำคัญๆ ในเรื่องต่างๆ ได้แก่ ให้รัชทายาทสตรีมีสิทธิขึ้นครองราชสมบัติ กำหนดให้รัฐสภามีเพียงสภาเดียว และให้ประชาชนชาวเดนมาร์กชายและหญิงที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้ ปัจจุบันเดนมาร์กเป็นราชอาณาจักรโดยมีพระมหากษัตริย์ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญเป็นประมุข คือ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2515 (ค.ศ.1972) และทรงเป็นพระประมุขแห่งเดนมาร์กลำดับที่ 52 (เดนมาร์กมีพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ปี 1528 (ค.ศ.985)) สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2543 (ค.ศ.2000)

[แก้] การเมือง

รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy)

ประมุข สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก

นายกรัฐมนตรี นาย Anders Fogh Rasmussen (พรรค Liberal)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย Per Stig Moller (พรรค Conservative)

สถาบันการเมือง รัฐสภาเดนมาร์กเป็นระบบรัฐสภาเดียว (Folketing) มีสมาชิกจำนวน 179 คน มาจากการเลือกตั้ง (รวมผู้แทนจากหมู่เกาะ Faroe 2 คน และเกาะ Greenland 2 คน) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์และมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภาสถาบันตุลาการ ศาลของเดนมาร์กประกอบด้วยศาลชั้นต้นประจำท้องถิ่น ศาลสูง 2 ศาล และศาลฎีกา 1 ศาล นอกจากนี้ ยังมีศาลพิเศษสำหรับพิจารณาคดีเฉพาะด้าน อาทิ คดีเกี่ยวกับการเดินเรือ/กฎหมายทะเล

การเมืองการปกครอง เดนมาร์กเป็นประเทศปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงดำรงตำแหน่งพระประมุขของเดนมาร์ก รัฐสภาเดนมาร์ก (Folketing) เป็นระบบสภาเดียว สมาชิกรัฐสภามีจำนวน 179 คน มาจากการเลือกตั้ง (แยกเป็น 175 คนจากเดนมาร์ก 2 คนจากหมู่เกาะ Faroeและอีก 2 คนจากเกาะ Greenland ซึ่งหมู่เกาะทั้งสองเป็นดินแดนโพ้นทะเลภายใต้ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ซึ่งได้รับสิทธิในการปกครองตนเอง)

การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรครัฐบาลประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง พรรค Liberal ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Rasmussen ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด 52 ที่นั่งจาก 179 ที่นั่ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองเดนมาร์ก ที่พรรค Liberal ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปติดต่อกัน 2 ครั้ง (ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2544 พรรค Social Democrat จะประสบชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปและได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล มาโดยตลอด) สำหรับการจัดตั้งรัฐบาล พรรค Liberal ยังคงเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรค Conservative เช่นเดียวกันกับการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2544 ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี Rasmussen ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

การจัดตั้งรัฐบาลเดนมาร์กมักจะเป็นรัฐบาลผสมเสียงข้างน้อย และในช่วงเวลาที่ผ่านมาพัฒนาการการเมืองเดนมาร์กมีลักษณะของการประนีประนอมระหว่างพรรคการเมืองและมักจะเจรจากันในเรื่องสำคัญๆ เช่น การต่อรองการเจรจาจัดทำงบประมาณประจำปี นอกรัฐสภาก่อนลงคะแนนเสียงในรัฐสภา และจะมีการให้ความสำคัญในเรื่องนโยบายของประเทศมากกว่าการแบ่งแยกเป็นนโยบายของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน และหากในกรณีที่รัฐสภามีมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลจะต้องลาออกเพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ซึ่งรัฐบาลอาจกำหนดให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่โดยไม่จำเป็นต้องลาออกในขณะนั้นก็ได้ อนึ่ง ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งทั่วไปกำหนดจัดขึ้นทุก 4 ปี ประชาชนชาวเดนมาร์ก อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง (กล่าวคือ 4,004,000 คน จากประชากรทั้งสิ้น 5.3 ล้านคน ณ ปี ค.ศ.2000) สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญ ทรงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครอง อย่างไรก็ดี สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงรับฟังการบรรยายสรุปจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องต่างๆ ทุกวันพุธ และทรงรับทราบพัฒนาการต่างๆ ของประเทศจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในระหว่างการประชุมในวันพุธสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ดังนั้น สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 จึงทรงรับทราบข้อมูลข่าวสารและพัฒนาการต่างๆ อย่างสม่ำเสมอเดนมาร์กเป็นสมาชิกและเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(North Atlantic Treaty Organization - NATO) เมื่อปี 2492 (ค.ศ.1949) เป็นประเทศริเริ่มการจัดตั้งคณะมนตรีนอร์ดิก (Nordic Council) เมื่อปี 2495 (ค.ศ.1952) และเข้าร่วมประชาคมยุโรป (หรือสหภาพยุโรปต่อมา) เมื่อปี 2516 (ค.ศ.1973)

ประวัติบุคคลสำคัญ (พระประมุขของรัฐและผู้นำรัฐบาล) สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (Her Majesty Queen Margrethe II) ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1940 เป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริก ที่ 9 แห่งเดนมาร์ก (His Majesty King Frederik IX) และสมเด็จพระราชินีอินกริด (Her Majesty Queen Ingrid) อภิเษกสมรสกับเจ้าชายเฮนริก (His Royal Highness Prince Henrik) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ.1967 และมี พระราชโอรส 2 พระองค์ คือ เจ้าชายเฟรเดอริก (HRH Crown Prince Frederik) (ค.ศ.1968) และเจ้าชายโจคิม (HRH Prince Joachim) (ค.ศ.1969) นาย Anders Fogh Rasmussen นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก นาย Anders Fogh Rasmussen (อันเดอร์ โฟค ราสมูสเซน) นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ.1953 เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ.2001 และเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญๆ เช่น สมาชิกรัฐสภาเดนมาร์ก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 รองประธานคณะกรรมาธิการด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รัฐสภาเดนมาร์ก ระหว่างปี ค.ศ. 1993-1998 ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค Liberal ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 และเป็นหัวหน้าพรรค Liberal

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

1.Copenhagen (København) (national capital)

2.Frederiksberg (city)

3.Copenhagen County (Københavns Amt

4.Frederiksborg

5.Roskilde

6.West Zealand (Vestsjælland)

7.Storstrøm

8.Funen (Fyn)

9.South Jutland (Sønderjylland)

10.Ribe

11.Vejle

12.Ringkjøbing 13.Viborg

14.North Jutland (Nordjylland)

15.Aarhus (Århus)

16.Bornholm (regional municipality)

[แก้] ภูมิศาสตร์

เดนมาร์กแต่เดิมเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย พื้นที่ตลอดชายฝั่งเป็ยสันทรายกว้างใหญ่ ส่วนพื้นที่ส่วนอื่นเกิดจากธารน้ำแข็งและหนองน้ำ มีเกาะมากมายกว่า 406 เกาะ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่อาศัย พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นที่ราบ นอกจากหมู่เกาะแฟร์โร และเกาะกรีนแลนด์ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลจะมีทั้งที่ราบสูง และภูเขาสูง

แต่เดนมาร์กกลับมีอำนาจมากในการควบคุมทางผ่าน ทางช่องแคบออร์ซึนด์ ซึ่งอยู่ระหว่างเดนมาร์กและสวีเดน เดนมาร์กจึงสามารถเรียกเก็บภาษีจากผู้ผ่านเข้าออกได้

[แก้] เศรษฐกิจ

ดรรชนีทางเศรษฐกิจ - ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 240.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - GDP ต่อหัว 44,794 ดอลลาร์สหรัฐ - อัตราการว่างงาน ร้อยละ 5.1 (จำนวนแรงงาน 2.8 ล้านคน) - งบประมาณ เกินดุล 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - รายได้/รายจ่าย 52.9 และ 51.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - หนี้ต่างประเทศ 21.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 2.9 - เงินให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ (ODA) 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - ส่งออก 104.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - นำเข้า 92.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - ประเทศคู่ค้า (ส่งออก) เยอรมนี สวีเดน สหราชอาณาจักรฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ - ประเทศคู่ค้า (นำเข้า) เยอรมนี สวีเดน สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ - สินค้าส่งออกสำคัญ เครื่องมือในอุตสาหกรรม เนื้อและผลิตภัณฑ์เนื้อ ผลิตภัณฑ์อาหาร/นม - สินค้านำเข้าที่สำคัญ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ - ขีดความสามารถด้านการแข่งขัน (Global Competitiveness Index) ในปี 2549 อยู่ในลำดับที่ 4 (ปี 2548 ลำดับที่ 3)

ลักษณะทางเศรษฐกิจ ในอดีตเศรษฐกิจของเดนมาร์กขึ้นอยู่กับเกษตรกรรม และตั้งแต่ปี 2503(ค.ศ. 1960) เป็นต้นมา เป็นช่วงระยะเวลาที่ผลผลิตทางอุตสาหกรรมมีความเจริญรุดหน้านำผลผลิตทางเกษตรกรรมจนส่งผลทำให้เดนมาร์กกลายเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมและการเกษตรที่ก้าวหน้า โดยเศรษฐกิจของเดนมาร์กมีลักษณะเป็นระบบเศรษฐกิจขนาดเล็กและเปิด (small and open economy) ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กก็ได้มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่เปิดเสรี โดยที่สภาวะเศรษฐกิจของเดนมาร์กพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรมจากต่างประเทศ และจากทำเลที่ตั้งของเดนมาร์กที่เอื้ออำนวยต่อการเป็นศูนย์กลางส่งผ่านสินค้าเข้าสู่กลุ่มประเทศนอร์ดิก และสามารถเป็นประตูไปสู่กลุ่มประเทศบอลติกได้ เพราะเดนมาร์กมีเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างเดนมาร์ก-สวีเดน-นอร์เวย์ หลายเส้นทาง กอปรกับการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศ โดยมีสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปเหนือ และมีสะพาน Oresund Bridge เชื่อมระหว่างเกาะ Zealand ของเดนมาร์กกับเมือง Malmo ทางตอนใต้ของสวีเดน ซึ่งได้เปิดใช้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 (ค.ศ.2000) จึงทำให้เดนมาร์กมีบทบาทในสถานะที่เป็น trading house ในภูมิภาคยุโรปเหนือ

โครงสร้างทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของเดนมาร์กประกอบด้วย 3 ภาคที่สำคัญ ได้แก่ 1) ภาคเกษตรกรรมและการประมง ซึ่งได้พัฒนามาเป็นเกษตรกรรมแบบใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ (ใช้แรงงานเพียงร้อยละ 4 ของประชากรทั้งหมด) 2) ภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้าง (ร้อยละ 24) และ 3) ภาคบริการ ซึ่งเป็นภาครัฐ ร้อยละ 31 และภาคธุรกิจ ร้อยละ 41 ภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก คือ อุตสาหกรรมสินค้าอาหาร (food industry) โดยมีสินค้าที่ส่งออก ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่ วัว ผลิตภัณฑ์ประเภทเนย นม(diary products) เบียร์ สินค้าประมง และภาคอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญรองลงมา ได้แก่ 1)อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในการผลิตสินค้าเกษตร รวมทั้งการขนส่งสินค้าที่เสียง่าย ได้แก่ ตู้แช่แข็ง/แช่เย็นในรถบรรทุก/เรือ 2) อุตสาหกรรมเคมี (chemical industry) เพื่อป้องกันแมลง โรคพืช 3) อุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้แก่ ขนมิ้งค์ (mink) 4) อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ 5) อุตสาหกรรมทางด้านเภสัช (pharmaceutical industry) ได้แก่ อินซูลิน (insulin) โดยเดนมาร์กเป็นประเทศผู้นำประเทศหนึ่งในโลกที่ผลิตอินซูลินส่งออกขายในตลาดโลก 6) อุตสาหกรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ (เดนมาร์ก มีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องการออกแบบและคุณภาพ) กังหันลมเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า (เดนมาร์กเป็นประเทศผู้นำประเทศหนึ่งที่ส่งออกกังหันลมชนิดดังกล่าว) 7) อุตสาหกรรม software ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Industry) เครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม และ 8) อุตสาหกรรม Shipbuilding บริษัทอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของเดนมาร์กจะมีขนาดกลาง (medium-sized industry) และบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญของเดนมาร์ก รวมทั้งบริษัทที่มีการลงทุนในต่างประเทศ เช่น กลุ่มบริษัท A.P.Moller ซึ่งมีบริษัทเดินเรือ Maersk Line รวมอยู่ด้วย Danfoss (refrigeration technology), Grundfos (ผลิต pumps) Novo Nordisk (pharmaceuticals) เบียร์ Carlsberg และ Tuborg ตลอดจน รองเท้า Ecco เป็นต้น นอกจากนี้ เดนมาร์กยังได้สำรวจพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลเหนือซึ่งมีปริมาณมากพอที่นำไปใช้ภายในประเทศ รวมทั้งส่งออกสู่ตลาดโลกได้นับตั้งแต่ปี 2534 (ค.ศ.1991) เป็นต้นมา

การค้าขาย ทางด้านการค้ากับต่างประเทศนั้น เดนมาร์กทำการค้ากับสมาชิกสหภาพยุโรปมากถึง 2 ใน 3 ของการค้าต่างประเทศทั้งหมด ประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเดนมาร์กในยุโรปเรียงตามลำดับ ได้แก่ เยอรมนี สวีเดน อังกฤษ นอร์เวย์ ฝรั่งเศส ส่วนประเทศคู่ค้าที่อยู่นอกภูมิภาคยุโรป ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เอเชีย สินค้านำเข้าที่สำคัญ คือ รถยนต์และอุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า เหล็กและผลิตภัณฑ์ ปลาและผลิตภัณฑ์ สินค้าพลาสติก เป็นต้น รายได้จากการค้าระหว่างประเทศของเดนมาร์กคิดเป็นร้อยละ 60 ของ GDP ของเดนมาร์ก โดยร้อยละ 32 ของผลิตภัณฑ์ของเดนมาร์กถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ สินค้าออกของเดนมาร์กในปัจจุบันเป็นสินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 70 อีกร้อยละ 17 เป็นสินค้าเกษตร สินค้าออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร เครื่องมือ เคมีภัณฑ์ สุกรมีชีวิต เนื้อหมู เสื้อผ้า สิ่งทอ

นโยบายทางเศรษฐกิจ จุดมุ่งหมายของนโยบายเศรษฐกิจเดนมาร์ก คือ การทำให้เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีอัตราการจ้างงานที่สูง การพัฒนาพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและความสมบูรณ์ การส่งเสริมระบบรัฐสวัสดิการเพื่อความมั่นคงของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม และการจัดสรรเงินสนับสนุนจากรัฐบาลให้ประชาชนอย่างมีเหตุผล โดยเดนมาร์กและเยอรมนีมีระดับการจ้างงานคนที่อยู่ในวัยทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่สูงที่สุดร้อยละ 14.6 เมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกสหภาพยุโรปโดยเฉลี่ยร้อยละ 12.2 และสหรัฐฯ ร้อยละ 11.8 ด้านการต่างประเทศ นโยบายต่างประเทศของเดนมาร์กมีเป้าหมายสำคัญ คือ การรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การทำนุบำรุงความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเดนมาร์กอย่างดีที่สุด และการส่งเสริมมาตรฐานและค่านิยมที่สำคัญ เช่น ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เดนมาร์กยังเน้นแนวนโยบายที่มีเป้าหมายให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการป้องกันความขัดแย้ง การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคง รวมทั้งการเสริมสร้างความประนีประนอมในบริเวณที่มีความขัดแย้งด้วยการร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) และองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) การต่างประเทศของเดนมาร์กในยุคปัจจุบันได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริบทหรือด้านต่างๆ ดังนี้ 1. สหภาพยุโรป (European Union) เดนมาร์กได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อสหภาพยุโรป และการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างบรรดาประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป เดนมาร์กเข้าเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป (สหภาพยุโรปในปัจจุบัน) ตั้งแต่ปี 2516 (ค.ศ.1973) และพยายามผลักดันให้สหภาพยุโรปขยายสมาชิกภาพให้ครอบคลุมประเทศจากภูมิภาคฝั่งทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออก แม้ว่าเดนมาร์กเข้าร่วมในกิจกรรมและพันธกรณีของสหภาพยุโรปอย่างแข็งขัน แต่ด้วยเหตุผลการเมืองภายในประเทศและมติมหาชน เดนมาร์กยังคงมีข้อสงวน 4 ประการ ในการเข้าร่วมกระบวนการรวมตัวของสหภาพยุโรป ซึ่งได้แก่ 1) การเข้าเป็นสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน (EMU) 2) นโยบายการป้องกันร่วม 3) การเป็นพลเมืองแห่งสหภาพยุโรป 4) นโยบายด้านยุติธรรมและมหาดไทย (Justice and Home Affairs) ตลอดจนการตัดสินใจ โดยเสียงข้างมากในประเด็นปัญหาทางกฎหมายภายในและภายนอกสหภาพยุโรป การลงประชามติของเดนมาร์กในการเข้าร่วมสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน(Economic and Monetary Union –EMU) ของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2543 (ค.ศ.2000) รัฐบาลเดนมาร์กได้จัดให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการเข้าร่วมของเดนมาร์กในสหภาพเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป ในขั้นตอนของการใช้เงินสกุลเดียวหรือเงินยูโร (Euro) ผลปรากฏว่า ประชาชนร้อยละ 53.1ไม่เห็นด้วยต่อการเข้าร่วม EMU ขณะที่ร้อยละ 46.9 เห็นด้วย ทั้งนี้ ในการลงประชามติดังกล่าวมีประชาชนไปใช้สิทธิร้อยละ 87.8 จากประชากรจำนวนประมาณ 5.3 ล้านคน บทบาทที่สำคัญของเดนมาร์กในกิจการความสัมพันธ์ในกรอบของสหภาพยุโรป คือ การเข้ารับหน้าที่ประธานสหภาพยุโรปของเดนมาร์ก (EU Presidency) ระหว่างเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม 2545 (ค.ศ.2002) รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพของเดนมาร์กในการจัดประชุมระดับผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 4 (Asia-Europe Meeting –ASEM) ในเดือนกันยายนปี 2545 (ค.ศ.2002)

2. ภูมิภาคนอร์ดิก (Nordic) เดนมาร์กมีนโยบายให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนอร์ดิก ซึ่งประกอบด้วย นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ ภายใต้กรอบกิจกรรมของคณะมนตรีนอร์ดิก (Nordic Council) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม กระบวนการประชาธิปไตย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยี ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ

3. องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เดนมาร์กเป็นประเทศสมาชิกองค์การ NATO ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2492 (ค.ศ. 1949) โดยเดนมาร์กถือว่าเป็นสถาบันกลางที่ส่งเสริมความมั่นคงทางการเมืองในยุโรป นอกจากนี้ เดนมาร์กยังสนับสนุนให้สหรัฐอเมริกามีบทบาทแข็งขันในองค์การดังกล่าว แต่ไม่เห็นด้วยที่องค์การ NATO จะขยายสมาชิกภาพให้ครอบคลุมบรรดาประเทศในยุโรปตะวันออกอย่างรวดเร็วเกินไป ขณะเดียวกัน ก็ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของสหพันธรัฐรัสเซียด้วย

4. องค์การสหประชาชาติ เดนมาร์กเป็นประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2488(ค.ศ.1945) โดยเดนมาร์กได้เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญๆ ร่วมกับองค์การสหประชาชาติในด้านต่างๆเช่น การส่งกองกำลังเข้าร่วมในกิจกรรมมากกว่ากึ่งหนึ่งของการปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติ การส่งเสริมภารกิจขององค์การสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือประเทศในโลกที่สาม การให้การสนับสนุนกิจกรรมขององค์การสหประชาชาติในด้านสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม การพัฒนาทางสังคม ความมั่นคงร่วมกัน และการพัฒนาประชาธิปไตย นอกจากนี้ เดนมาร์กมีนโยบายให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ โดยเป็นหนึ่งในบรรดาไม่กี่ประเทศในโลกที่ได้บริจาคความช่วยเหลือในอัตราส่วนมากถึงร้อยละ 1 ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (GNP) เพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคีไปยังประเทศเป้าหมาย อาทิ บรรดาประเทศแถบทะเลบอลติก ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยเดนมาร์กให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ความเจริญทางเศรษฐกิจ การรักษาสิ่งแวดล้อม การเคารพสิทธิมนุษยชน และบทบาทของสตรีในการพัฒนา ทั้งนี้ ความช่วยเหลือโดยตรงส่วนใหญ่จะเน้นไปยังประเทศในภูมิภาคแอฟริกา นอกจากนั้นเดนมาร์กยังได้บริจาคความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกร้อยละ 0.5 ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (GNP) เพื่อส่งเสริมสันติภาพและประชาธิปไตยเป็นการเฉพาะ

[แก้] ประชากร

มีประชากรประมาณ 5,336,354 คน นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ จัดว่าเป็นประเทศที่เล็กแต่มีประชากรหนาแน่น

ประกอบด้วย ชาวเดนิช ร้อยละ 98.0 ชาวสแกนดิเนเวียอื่น ๆ ร้อยละ 0.4 ชาวตุรกี ร้อยละ 0.3 ชาวอังกฤษ ร้อยละ 0.2

อัตราการรูหนังสือของผู้ใหญ่ 99%

อายุเฉลี่ยของประชากร ชาย : 74 / หญิง : 79

อัตราการเติบโตของประขากร 0.4%

[แก้] วัฒนธรรม

(รอการเพิ่มเติมข้อมูล)
ประเทศ ใน ทวีปยุโรป

กรีซ · โครเอเชีย · จอร์เจีย1 · สาธารณรัฐเช็ก · ซานมารีโน · เซอร์เบีย · ไซปรัส1 · เดนมาร์ก · ตุรกี2 · นอร์เวย์ · เนเธอร์แลนด์ ·
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา · บัลแกเรีย · เบลเยียม · เบลารุส · โปรตุเกส · โปแลนด์ · ฝรั่งเศส · ฟินแลนด์ · มอนเตเนโกร ·
มอลโดวา · มอลตา · มาซิโดเนีย · โมนาโก · ยูเครน · เยอรมนี · รัสเซีย2 · โรมาเนีย · ลักเซมเบิร์ก · ลัตเวีย · ลิกเตนสไตน์ ·
ลิทัวเนีย · นครรัฐวาติกัน · สเปน · สโลวาเกีย · สโลวีเนีย · สวิตเซอร์แลนด์ · สวีเดน · สหราชอาณาจักร · ออสเตรีย ·
อันดอร์รา · อาเซอร์ไบจาน1 · อาร์เมเนีย1 · อิตาลี · เอสโตเนีย · แอลเบเนีย · ไอซ์แลนด์ · ไอร์แลนด์ · ฮังการี

1. ทางภูมิศาสตร์อยู่ในทวีปเอเชีย แต่มักถูกจัดอยู่ในทวีปยุโรป เนื่องจากมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน; 2. มีพื้นที่ทั้งในทวีปยุโรปและในทวีปเอเชีย


 
ประเทศสมาชิกและประเทศที่จะเข้าร่วมใน สหภาพยุโรป
ธงสหภาพยุโรป

กรีซ · สาธารณรัฐเช็ก · ไซปรัส · เดนมาร์ก · เนเธอร์แลนด์ · เบลเยียม · โปแลนด์ · โปรตุเกส ·
ฝรั่งเศส · ฟินแลนด์ · มอลตา · เยอรมนี · ลัตเวีย · ลิทัวเนีย · ลักเซมเบิร์ก · สวีเดน · สหราชอาณาจักร ·
สเปน · สโลวาเกีย · สโลวีเนีย · ออสเตรีย · อิตาลี · เอสโตเนีย · ไอร์แลนด์ · ฮังการี
ประเทศที่จะเข้าร่วม 1 มกราคม พ.ศ. 2550 - บัลแกเรีย · โรมาเนีย
ประเทศที่สมัครเข้าร่วม - โครเอเชีย · ตุรกี · มาซิโดเนีย · แอลเบเนีย
· บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา · มอนเตเนโกร · เซอร์เบีย



  ประเทศเดนมาร์ก เป็นบทความเกี่ยวกับ ประเทศ เมือง หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ ประเทศเดนมาร์ก ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ

Our "Network":

Project Gutenberg
https://gutenberg.classicistranieri.com

Encyclopaedia Britannica 1911
https://encyclopaediabritannica.classicistranieri.com

Librivox Audiobooks
https://librivox.classicistranieri.com

Linux Distributions
https://old.classicistranieri.com

Magnatune (MP3 Music)
https://magnatune.classicistranieri.com

Static Wikipedia (June 2008)
https://wikipedia.classicistranieri.com

Static Wikipedia (March 2008)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com/mar2008/

Static Wikipedia (2007)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com

Static Wikipedia (2006)
https://wikipedia2006.classicistranieri.com

Liber Liber
https://liberliber.classicistranieri.com

ZIM Files for Kiwix
https://zim.classicistranieri.com


Other Websites:

Bach - Goldberg Variations
https://www.goldbergvariations.org

Lazarillo de Tormes
https://www.lazarillodetormes.org

Madame Bovary
https://www.madamebovary.org

Il Fu Mattia Pascal
https://www.mattiapascal.it

The Voice in the Desert
https://www.thevoiceinthedesert.org

Confessione d'un amore fascista
https://www.amorefascista.it

Malinverno
https://www.malinverno.org

Debito formativo
https://www.debitoformativo.it

Adina Spire
https://www.adinaspire.com