ไฟนอลแฟนตาซี VII
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไฟนอลแฟนตาซี VII เป็นเกมแนว RPG สร้างขึ้นโดยบริษัท สแควร์อีนิกซ์ (Square-Enix) (ชื่อเดิม บริษัทสแควร์) ในปี พ.ศ. 2540 ถือเป็นเกมภาคแรกในชุด ไฟนอลแฟนตาซี สำหรับเล่นในเครื่องเกม เพลย์สเตชั่น ของ โซนี่ และ คอมพิวเตอร์ PC นอกจากนี้ ยังเป็นภาคแรกที่ทำในรูปแบบกราฟฟิกสามมิติ ทั้งตัวละครและฉาก และจากการสำรวจที่ผ่านมา ไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้ถือเป็นภาคที่ถูกยกให้เป็นภาคที่ขายดีที่สุดในตระกูล ไฟนอลแฟนตาซี ซึ่งขายได้มากกว่า 9.72 ล้านชุดทั่วโลก (สำรวจเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549)
เนื้อเรื่องของเกมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของกลุ่มๆหนึ่ง ทำการต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า "ชินระ คัมพานี" โดยบริษัทนี้ได้ทำการดูดพลังชีวิตของโลกเพื่อเอาไปแปรรูปเป็นแหล่งพลังงาน ดังนั้นการปกปักษ์รักษาโลกโดยกลุ่มคนกลุ่มนี้จึงบังเกิดขึ้น
สารบัญ |
[แก้] ลักษณะการเล่น
การเล่นในภาคนี้ยังคงเป็นการเดินบนแผนที่โดยประกอบไปด้วยเมืองต่างๆ เหมือนๆกับภาคที่ผ่านมาของตระกูลไฟนอลแฟนตาซี ภาคนี้ประกอบไปด้วยลักษณะการเล่นขั้นพื้นฐานอยู่สามแบบ: แผนที่โลก, ภายในเมืองหรือดันเจี้ยน, ฉากต่อสู้
- แผนที่โลก จะเป็นสามมิติโดยจะมีแผนที่แบบสองมิติแสดงอยู่ควบคู่ไปด้วยกัน โดยตัวละครจะเดินทางด้วยแผนที่โลกสามมิตินี้ ผ่านไปยังที่ต่างๆมากมาย เช่น เมือง, ถ้ำ เป็นต้น ส่วนการเดินทางอาจใช้วิธีเดินปกติ หรือใช้พาหนะเช่น ใช้โจโคโบะ, ใช้เรือเหาะ
- ในเมืองหรือดันเจี้ยน จะเป็นภาพแบบพรีเรนเดอร์ หรือภาพสองมิติเป็นฉากหลัง และตัวละครจะเป็นสามมิติ
- ฉากต่อสู้ จะเป็นสามมิติที่มีฉากหลังและตัวละครทางฝ่ายผู้เล่นและศัตรู โดยฉากนี้จะเป็นส่วนที่ผู้เล่นสามารถระบุคำสั่งต่างๆผ่านทางรายการคำสั่ง เพื่อทำการต่อสู้กับศัตรูที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์
ตอนช่วงแรกๆของเกม ตัวละครจะถูกจำกัดการเดินทางอยู่ภายในเมืองเมืองหนึ่ง แต่เมื่อเล่นไปได้ระยะหนึ่งแล้วผู้เล่นจะสามารถพาตัวละครไปยังที่ใหม่ๆได้ โดยลักษณะเกมจะปล่อยให้ผู้เล่นสำรวจที่ต่างๆได้อย่างอิสระ แต่จะมีเนื้อเรื่องปรากฏเป็นระยะหากผู้เล่นไปยังสถานที่ที่เป็นจุดของเนื้อเรื่อง และผู้เล่นต้องทำการผ่านเนื้อเรื่องเหล่านี้เพื่อดำเนินเกมต่อไป เนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการพูดกันของตัวละครหรือจะเป็นฉากดำเนินเนื้อเรื่องก็ได้
[แก้] การต่อสู้
ในการต่อสู้ในเกมจะใช้ระบบผลัดกันรุกผลัดกันรับ โดยมีระบบ Active Time Battle (ATB) ดังเช่นภาคก่อนๆ เพื่อหาเวลาของตัวละครที่จะสามารถใส่คำสั่งได้ก่อน จุดหนึ่งที่แตกต่างจากภาคก่อนๆของไฟนอลแฟนตาซีคือ ภาคนี้จะอนุญาตให้มีตัวละครแค่สามตัวอยู่ในปาร์ตี้เพื่อใช้ตอนต่อสู้หรือตอนเดินทาง ภาคก่อนๆจะมีได้สี่ถึงห้าตัวละครเลยทีเดียว
ระบบสกิลหรือความสามารถจะถูกกำหนดด้วยมาทีเรีย (Materia) ซึ่งเป็นลูกแก้วเวทมนต์ โดยที่เมื่อนำมาทีเรียไปใส่ในช่องของอาวุธหรือเสื้อเกราะแล้ว จะทำให้ตัวละครสามารถร่ายเวทมนต์และความสามารถพิเศษอื่นๆ เช่น เรียกมนต์อสูร, สะท้อนการโจมตี เป็นต้น ความพิเศษของการใช้มาทีเรียอีกอย่างหนึ่งคือ การจับคู่มาทีเรียเพื่อเพิ่มความสามารถ เช่น จับคู่มาทีเรียเวทมนต์ไฟกับมาทีเรียโจมตีกลุ่ม จะได้ผลลัพธ์คือ ความสามารถใช้เวทมนต์ไฟโจมตีศัตรูได้ทั้งกลุ่ม เป็นต้น
รูปแบบความสามารถพิเศษหนึ่งของตัวละครที่คุณเท็ตสึยะ โนมูระพัฒนาจากไฟนอลแฟนตาซี VIก็คือ ลิมิท เบรค (Limit Break) โดยที่ทุกๆตัวละครที่เราบังคับได้ในเกมจะมีมาตรระดับอยู่อันหนึ่งซึ่งค่าในมาตรนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อถูกโจมตีหรือได้รับความเสียหายจากศัตรู และเมื่อค่าของมาตรนี้เต็ม ตัวละครนั้นๆจะสามารถใช้ ลิมิท เบรค ได้ ซึ่งมันก็คือความสามารถพิเศษชนิดหนึ่งที่อาจจะใช้โจมตีศัตรูด้วยความเสียหายที่มากกว่าการโจมตีปกติ หรือว่าอาจจะเป็นความสามารถพิเศษที่ใช้รักษาเพื่อนร่วมทีมของตัวละครนั้นๆก็ได้
คุณเท็ตสึยะ โนมูระยังได้ตัดสินใจที่จะให้มีการร่ายเวทมนต์เรียกมนต์อสูรเข้ามาในเกม ซึ่งความคิดนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มแฟนๆของไฟนอลแฟนตาซี และความคิดนี้ยังได้ถูกใช้ในการพัฒนาเกมภาคต่อๆมาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แฟนๆบางคนก็บ่นว่าฉากตอนเรียกมนต์อสูรนี้บางทีก็ค่อนข้างน่าเบื่อเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะมันนานเกินไป
[แก้] เค้าโครงของเกม
[แก้] โครงเรื่อง
โครงเรื่องภาคนี้ก็ถือได้ว่าดำเนินรอยตามไฟนอลแฟนตาซี VI โดยวางเรื่องราวบนโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีไฮเทค ต่างจากภาคหนึ่งถึงภาคห้าในตระกูลไฟนอลแฟนตาซี ภาพรวมของเทคโนโลยีและสังคมในเกมจะออกไปทางนิยายวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต โลกของไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้มีชื่อว่า "ไกอา" (Gaia) ซึ่งประกอบไปด้วยดินแดนใหญ่ๆสามส่วนด้วยกัน
- ดินแดนทางตะวันออก เป็นที่ตั้งของเมืองขนาดใหญ่ที่ชื่อ มิดการ์ เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมโดยมี ชินระ คัมพานี (Shin-Ra Company) เป็นศูนย์กลางและเป็นผู้ควบคุมระบบการเมืองของมิดการ์ ในดินแดนนี้ยังมีฐานที่มั่นทางการทหารหลักของชินระตั้งอยู่ด้วย มีชื่อว่า จูน่อน (Junon) ส่วนที่เหลือในดินแดนนี้จะเป็นฟาร์มโจโคโบะและหมู่บ้านเล็กๆสองสามแห่ง
- ดินแดนทางตะวันตก ดินแดนนี้เป็นดินแดนที่ผู้เล่นจะใช้เวลาในการเล่นมากกว่าดินแดนอื่นๆ ดินแดนนี้ประกอบไปด้วย สวนพักผ่อน, รีสอร์ทริมทะเล, เมืองที่ตั้งบนที่ราบสูงที่มีชื่อว่า "คอสโม แคนยอน" (Cosmo Canyon) ซึ่งชาวพื้นเมืองของเมืองนี้มีความเชื่อมั่นในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกับธรรมชาติและสามารถอุทิศทุกอย่างเพื่อให้ความเป็นอยู่ของธรรมชาติดีขึ้น อีกทั้งยังมีการสอนปรัชญาที่มีชื่อว่า "การศึกษาชีวิตแห่งดวงดาว" (The Study of Planet Life) ให้กับผู้สนใจ โดยหลักของปรัชญานี้สอนว่า พึงมีสติรับรู้และให้ความเคารพสูงสุดแก่ธรรมชาติ และดวงดาวมีชีวิตแห่งตนเอง
- ดินแดนทางเหนือ เป็นดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ เป็นที่ตั้งของสถานที่สองสามแห่งที่เกี่ยวกับการขุดสำรวจ หรือการค้นคว้าวิจัย และยังมีรีสอร์ทสำหรับเล่นสกีอีกด้วย ส่วนอื่นๆที่ตั้งอยู่ที่ดินแดนนี้ก็คือสถานที่ใต้น้ำซึ่งสามารถมาได้โดยการใช้เรือดำน้ำ
ชินระ คัมพานี แรกเริ่มเป็นบริษัทเล็กๆที่ทำการค้นคว้าพัฒนาอาวุธ แต่ภายในหนึ่งชั่วอายุคน ชินระก็ได้กลายเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองระดับโลกเพราะว่าการค้นพบพลังงานมาโกะ (mako energy) ซึ่งเป็นพลังงานที่ได้มาจากการสกัดสสารสีเขียวที่เกิดขึ้นภายในแกนของดวงดาว (โลก) การนำมาโกะนี้มาใช้งานนั้นสามารถทำได้โดยใช้เตาปฏิกรณ์มาโกะ (mako reactors) ทางบริษัทได้ค้นพบหลังจากนั้นอีกไม่นานว่า มาโกะสามารถนำมาใช้งานได้สองอย่างคือ สร้างพลังงาน และสร้างวัตถุทรงกลมขนาดเล็กที่เรียกว่า "มาทีเรีย" (materia) ซึ่งทำให้มนุษย์มีพลังเวทมนต์ และยิ่งไปกว่านั้น ชินระได้เรียนรู้อีกว่า ถ้านำพลังงานมาโกะมาถ่ายทอดเข้าไปโดยตรงในคนที่มีร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์ จะทำให้คนๆนั้นได้ครอบครองความสามารถเหนือมนุษย์อย่างถาวร
จากการที่ชินระเป็นผู้ครอบครองพลังงานมาโกะและการสร้างมาทีเรีย ทำให้ชินระสามารถผลิตนักรบเหนือมนุษย์ขึ้นมาเรียกว่า "โซลเจอร์" (SOLDIER) ต่อมาได้มีการส่งกองกำลังทหารนี้ออกมาเพื่อยุติความขัดแย้งระดับโลกที่ยืดเยื้อมากกว่าสองสามปีได้อย่างรวดเร็ว และสภาพสังคมหลังสงครามนั้น ทำให้ชินระซึ่งมีทั้งพลังงานมาโกะและมารีเรีย ได้เป็นผู้ครอบครองโลกนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เมืองเล็กๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของชินระได้ถูกรวมกันเป็นเมืองเมืองเดียว เมืองใหม่นี้มีชื่อว่า มิดการ์ (Midgar) การประเคนความสุขต่างๆให้กับผู้เป็นใหญ่ของชินระนี้เอง ทำให้ชินระละเลยการเอาใจใส่ต่อประชาชนที่มีฐานะไม่สู้ดีของเมืองมิดการ์ ชินระได้มีการสร้างตึกสูงเสียดฟ้าเพื่อเป็นฐานทำการใหญ่และสร้างแผ่นโลหะขนาดยักษ์ปิดเหนือเมืองด้านล่างเพื่อให้เป็นที่ทำงานของคนผู้มีฐานะ ปล่อยให้เมืองด้านล่างหรือที่เรียกว่า สลัม (slums) ถูกบดบังแสงอาทิตย์และท้องฟ้าไปหมด และทำให้อากาศเป็นพิษอีกด้วย เพราะเหตุนี้เอง ผู้คนมากมายที่อาศัยอยู่ในสลัมมีสุขภาพที่ทรุดโทรมลงและพิกลพิการ โดยที่ชินระไม่ใส่ใจนักที่จะช่วยเหลือพวกชาวเมือง
การดำเนินการของชินระเริ่มที่จะพบกับอุปสรรคจากกลุ่มคนที่เชื่อว่าการใช้พลังงานมาโกะนั้นกำลังทำให้แก่นของจิตวิญญาณของโลกหมดไป การเติบโตขึ้นของแก่นจิตวิญญาณถูกเรียกว่า "ไลฟสตรีม" (Lifestream)ซึ่งระบุอยู่ในปรัชญาชื่อการศึกษาชีวิตแห่งดวงดาว ในปรัชญานี้ได้กล่าวว่ากระแสพลังงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงพลังงานชีวิตของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพลังของทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกด้วย เมื่อชีวิตใดๆได้เกิดขึ้นบนโลกนี้ พลังงานงานส่วนหนึ่งจากโลกจะถูกดึงไปเพื่อให้ชีวิตนั้นดำเนินต่อไป เมื่อชีวิตนั้นเติบโตขึ้น ประสบการณ์ต่างๆจะทำให้จิตวิญญาณของชีวิตนั้นเติบโตขึ้นด้วย ต่อมาหากชีวิตนั้นดับลง จิตวิญญาณที่เติบโตและเต็มไปด้วยประสบการณ์ของชีวิตนั้นจะกลับคืนสู่โลก ทำให้ไลฟสตรีมเติบโตขึ้น ดังนั้น ผู้ที่เชื่อหลักคำสอนของปรัชญานี้ได้โต้ตอบชินระว่า การกระทำของชินระที่กำลังทำอยู่คือการดูดพลังงานของโลกให้หมดไปอย่างช้าๆ ผลลัพธ์สุดท้ายจะทำให้ชีวิตทุกชีวิตบนโลกดับสลายลง
หนึ่งในผู้ศรัทธาหลักปรัชญาได้ตัดสินใจว่ามีหนทางเดียวที่จะป้องกันการทำลายโลกของชินระ คือการต่อต้านชินระโดยใช้วิธีรุนแรง โดยมีการรวมกลุ่มและตั้งเป็นองค์กรขึ้นมาชื่อว่า "อะวาลานช์" (AVALANCHE) โดยองค์กรนี้เริ่มที่จะทำสงครามยืดเยื้อกับชินระ มุ่งเน้นไปที่การโจมตีเตาปฏิกรณ์มาโกะและความพยายามที่จะสังหารประธานของชินระด้วย ต่อมา ถึงแม้ว่ากลุ่มอะวาลานช์กลุ่มแรกๆได้ถูกกวาดล้างไปโดยทีมสังหารของชินระที่ชื่อ "เติกส์" (The Turks) แต่ก็ยังมีบุคคลคนหนึ่งของอะวาลานช์ที่ยังเหลืออยู่และมุ่งที่จะสานต่อจุดมุ่งหมายดั้งเดิม บุคคลนั้นชื่อ "บาร์เร็ต วอลเลซ" (Barret Wallace) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้
[แก้] ตัวละครหลัก
- Cloud Strifer
- ตัวละครหลักในเกม ชายหนุมผู้สูญเสียความทรงจำ ปรากฎตัวในชุดทหารชั้นสูงของ Shinra company เพื่อรับจ้างทำงานบางอย่างให้ผู้ว่าจ้าง ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ Barret Wallace
- Barret Wallace
- ชายร่างยักษ์ผู้มีมือขวาเป็นปืน ผู้นำกลุ่มต่อต้าน Shinra company ไม่ใช่เพราะเหตุผลในการปกป้องโลก แต่เป็นเพราะความหลังอันโหดร้ายที่ Shinra company เป็นผู้ก่อ
- Tifa Lockheart
- หญิงสาวผู้รอคอยคำสัญญา ผู้เป็นหนึ่งในกลุ่ม AVALANCHE ที่ต่อต้านและคอยขัดขวางการสร้างเตาปฏิกรณ์ Mako Energy ของ Shinra company เพื่อดูดพลังงานจากแกนโลกขึ้นมาใช้ เธอเป็นผู้คืนความทรงจำบางส่วนให้กับ Cloud Z
- Aeris Gainsborough
- หญิงสาวผู้มีสายเลือดโบราณ ปรากฎตัวในฉากหนึ่งของสลัม ในขณะที่ Cloud กำลังหาทางกลับไปรวมกลุ่มกับ Barret เธอมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลกจากความพินาศเนื่องจากการที่ถูกดึง Mako Energy ไปใช้มากจนเกินไป
- Red XIII
- สัตว์โบราณที่ถูกจับมาทดลองโดย Shinra company และเนื่องจากความหยิ่งทนงในศักดิ์ศรีจึงละทิ้งชื่อเดิม และใช้ชื่อที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ตั้งให้(เขาเป็นสัตว์ทดลองหมายเลข 13) ปรากฎตัวครั้งแรกในห้องทดลองอาวุธชีวภาพของ Shinra company หลังจากได้เข้าร่วมกับกลุ่มของ Cloud แล้วจึงได้มีโอกาสกลับไปยังบ้านเกิดแก้ปมเขื่องในจิตใจ แต่ก็เลือกที่จะร่วมเดินทางไปถึงที่สุด
- Yuffie Kisaragi เด็กสาวนินจาผู้ออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ใช้ชูริเคนขนาดยักษ์เป็นอาวุธ โดยถ้าเดินเรื่องผิดไปแม้แต่นิดเดียวจะไม่ได้เธอเข้ามาร่วมกลุ่มแต่จะโดนขโมยของแล้วก็หายไป บ้านเกิดของเธอเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของเกม และถ้าผู้ที่เดินเรื่องไปถึงและอ่านรายละเอียดพอสมควร แล้วจะรู้ว่าการที่เธอเข้ามาร่วมเดินทางนั้น มีเหตุผลที่...
- Cid Highwind
- ตัวละครอมตะนิรันดร์กาลของเกม โดยในภาคนี้รับบทเป็นชายวัยกลางคนที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนทุกอย่างที่คล้ายเครื่องบิน(เครื่องบิน เรือบิน จรวด ยานอวกาศ อ่า โทษครับ ภาคนี้ไม่มี แล้วก็เครื่องบินที่ถูกดัดแปลงเป็นเรือ) ใช้อาวุธยาวประเภทหอก หรือ ทวนเป็นอาวุธ ปรากฎตัวในเมืองที่ Shinra company เคยสร้างจรวดในการทดลองแต่เนื่องจาก Cid ผู้ที่เป็นหัวหน้างานทำงานผิดพลาด(ก็ทุกคนกล่าวหากันว่าอย่างงั้นอะนะ) จึงล้มเลิกโครงการนี้ไป
- Cait Sith
- ตัวละครประหลาดในเกมที่ออกมาเป็นแพ็กเกตคู่ โดยมีแมวนั่งอยู่บนหัวของสัตว์อีกชนิดนึง เป็นสปายที่ Shinra company ส่งมาจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มพระเอก ถ้าใครชอบท่าไม้ตายแปลกๆ ตลกๆ และเสี่ยง ก็อาจจะชอบตัวละครนี้
- Vincent Valentine
- ชายหนุ่มผู้ที่ถูก Shinra company นำไปทดลองจนมือข้างซ้ายกลายเป็นมือปีศาจ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะนำเขามาร่วมในกลุ่มหรือไม่ เขาเป็นอีกผู้นึงที่มีความเกี่ยวข้องเศษเสี้ยวความทรงจำของ Cloud แต่เศษเสี้ยวนั้นเป็นสิ่งที่เริ่มต้น และเชื่อมเหตุการณ์สำคัญที่สุดของ Cloud
- Sephiroth
- อดีตทหารมือหนึ่งของ Shinra company ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจและเลวร้าย ที่สุดในเกม เขาล่วงรู้ความลับของ Shinra company และถอนตัวออกไปโดยได้แบกความลับและความเจ็บปวดที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้เอาไว้ ความจริงที่ก่อให้เกิดความแค้น ความแค้นที่ทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นสุภาพบุรุษต้องเปลี่ยนไปเป็นฆาตกรหฤโหด ผู้ที่กำความลับของจุดเริ่มต้นและจุดจบแห่งเรื่องราวทั้งหมด
[แก้] ตัวละครอื่นๆ
ประธานหนุ่ม Shinra company กลุ่ม turks
Weapon (4 ตัวละคร ผู้ที่ร้ายยิ่งกว่าร้าย ร้ายกว่าบอสใหญ่ในเกมเสียอีก นอกจากฝีมือแล้วการจะโค่นตัวละครทั้ง 4 ตัวจนครบต้องอาศัยดวงอย่างมาก)
Chocobo นกที่รูปร่างคล้ายนกกระจอกเทศแต่น่ารัก หรือ เท่ห์(แล้วแต่ version) และฉลาดกว่านกกระเทศมากมายนัก ในภาค 7 นี้ผู้ที่ลงรายละเอียดในการเก็บ ITEM คงจะชอบตัวละครตัวนี้
ลูกสาว(บุญธรรม)ของ Barret
เพื่อนที่ปรากฎในความทรงจำของ Cloud
แม่ของ Aeris
ปู่ของ Red
ภรรยาของ Cid
หญิงในดวงใจของ Vincent
พ่อของ Yuffie
แม่ของ Sephiroth
และอื่นๆ
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
ชุดเกมหลัก | | I - II - III - IV - V - VI - VII - VIII - IX - X - XI - XII - XIII |
ชุดสะสม | | I-II - Collection - Anthology - Chronicles - Origins - Dawn of Souls |
เกมอื่นๆ | | Before Crisis - Crisis Core - Dirge of Cerberus - X-2 - Crystal Chronicles - Tactics - Tactics Advance - Agito XIII - Versus XIII |
ภาพยนตร์และอนิเมชัน | | OVA - The Spirits Within -Unlimited - Advent Children - Last Order |
ไฟนอลแฟนตาซี VII เป็นบทความเกี่ยวกับ วิดีโอเกม หรือ เกมคอมพิวเตอร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |