โรงแรม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงแรม หมายถึง สถานที่ประกอบการเชิงการค้าที่นักธุรกิจตั้งขึ้น เพื่อบริการผู้เดินทางในเรื่องของที่พักอาศัย อาหาร และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพักอาศัยและเดินทาง หรืออาคารที่มีห้องนอนหลายห้อง ติดต่อเรียงรายกันในอาคารหนึ่งหลังหรือหลายหลัง ซึ่งมีบริการต่าง ๆ เพื่อความสะดวกของผู้ที่มาพัก ซึ่งเรียกว่า "แขก" (guest)
คำว่า hotel หรือ โรงแรมมีที่มาจากภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลว่า คฤหาสน์ โรงแรมแห่งแรกในยุโรปคือ Hotel de Hanri IV (โฮเทล เดอ อองรี กัต) เมื่อปี ค.ศ.1788 โดยในสมัยก่อนใช้คำว่า hôtel และภายหลังได้เปลี่ยนตัวโอมาเป็นโอปกติในภาษาอังกฤษเป็น hotel เหมือนปัจจุบัน
[แก้] วิวัฒนาการของโรงแรม
เกิดขึ้นจากสมัยโบราณประมาณช่วงยุคของอาณาจักร กรีกที่คนเราเริ่มเดินทางระหว่างเมืองไปมาหาสู่ แต่เดิมผู้เดินทางจะนอนตามถนนหรือนอนตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วไป หรือ ตามโบสถ ์โดยแต่เดิมเป็นการให้ที่พักพิง มีอาหารให้ตามอัตถภาพ ไม่มีค่าบริการ จนกระทั้งมีคนหัวใสได้เปลี่ยนแนวคิดนี้ให้กลายเป็นธุรกิจขึ้นมาโดยเริ่มต้นจาก เมืองฟลอเรนซ์ ์ประเทศอิตาลี่ จนกระทั้งปี ค.ศ.1282 เมื่อสมาคมโรงแรมในสมัยนั้นถือกำเนิดขึ้น และได้เปลี่ยนแนวคิดจาก ไมตรีจิต มาเป็น ธุรกิจ และเริ่มมีการขายไวน์ อาหารง่ายๆ มีการใช้ระบบ ลงทะเบียนผู้เข้าพักขึ้น จนธุรกิจนี้แพร่หลายและทำกำไร จากนั้นไม่นานธุรกิจนี้จึงถือกำเนิดขึ้นและเริ่มแพร่หลายไปยัง ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส จนถึง สหราชอาณาจักร
การโรงแรม มัพัฒนาการตลอดเวลา จากแต่เดิมที่มีห้องพักเพียงอย่างเดียว สำหรับนักเดินทางก็พัฒนา ให้มีความหรูหรา สะดวกสบาย มีการบริการที่ดี โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรฯโรงแรมเป็นที่ของผู้ดี และขุนนาง นักการเมืองเท่านั้น โดยโรงแรมที่มีชื่อเสียงเรื่องความหรูหรามากของสหราชอาณาจักรฯ คือโีรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) ปี ค.ศ.1880 ซึ่งเป็นโรงแรมเดียวที่มี เครื่องกำเนิดไฟฟ้า โบสถ์ โรงละคร อยู่ในนั้น
โรงแรมไม่มีการพัฒนาไปไกลกว่า จนกระทั้ง นายเซซาร์ ริทซ์ (Ce'Sar Ritz) เป็นชาว สวิสเซอร์แลนด์ ผู้ซึ่งเป็นบิดาของการโรงแรมได้นำวิทยาการใหม่ๆมาใช้นั่นเอง
[แก้] วิวัฒนาการที่สำคัญ
- ค.ศ.1834 แอสเตอร์ (Astor) เป็นผู้ริเริ่มนำระบบท่อประปามาใช้ในอาคาร ทำให้ห้องพักสามารถสร้างห้องน้ำไว้ได้ในตัวห้องจากแต่เดิมต้องไปใช้ห้องน้ำรวม
- ค.ศ.1853 มีการใช้ลิฟต์พลังงานไอน้ำในโรงแรมเป็นครั้งแรก
- ค.ศ.1875 โรงแรมพาเลซ ซานฟรานซิสโก สร้างขึ้นด้วยเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีห้องพัก 800 ห้อง ถือเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่มากในขณะนั้น
- ค.ศ.1894 เนเธอร์แลนด์โฮเทล ที่นครนิวยอร์กเป็นโรงแรมแห่งแรกที่มีโทรศัพท์ใช้ในห้องพัก
[แก้] วิวัฒนาการของโรงแรมในประเทศไทย
การโรงแรมในประเทศไทยเริ่มขึ้นมาตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชการที่ 4 ซึ่งประชาชนมีการไปมาหาสู่กัน ชาวต่างชาติคนจีนที่เข้ามาที่สยามประเทศในเวลานั้นก็จะไปพักตามศาลาวัด ต่อมาเมื่อคณะฑูตซึ่งมี สมเด็จพระราโชไทยเสด็จกลับจากยุโรป ก็ได้นำแนวความคิดของการสร้างโรงแรมมาพัฒนา จนกระทั้งเมื่อหนังสือพิมพ์รายปีของ หมอบรัดเลย์ (D.B.Bradley)
- ฉบับปี พ.ศ.2406(ค.ศ.1863)ก็ได้มีข้อความประกาศเปิดโรงแรมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นั่นคือ ยูเนี่ยน โฮเต็ล (Union Hotel) และ บอร์ดดิ้ง โฮเต็ล (Boarding Hotel)
- ฉบับปี พ.ศ.2407(ค.ศ.1864)ข้อความประกาศชื่อโรงแรม ยูเนี่ยน โฮเต็ล(Union Hotel), โอเรียนเต็ล(Oriental), ฟิซเชอร์ โฮเต็ล(Fisher's Hotel)
- ฉบับปี พ.ศ.2408(ค.ศ.1865)ข้อความประกาศชื่อโรงแรม ยูเนี่ยน โฮเต็ล(Union Hotel)และ โอเรียนเต็ล (Oriental)
- ฉบับปี พ.ศ.2409(ค.ศ.1866)ข้อความประกาศชื่อโรงแรม ยูเนี่ยนโฮเต็ล (Union Hotel)
จนมาถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 5 มีการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ให้มีความสะดวกสบายและหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม มีการนำไฟฟ้าเข้าไปใช้ในโรงแรมเป็นครั้งแรกที่ โรงแรมโอเรียนเต็ล มีการเปิดห้องอาหารภายในโรงแรมแบบเต็มระบบและในรัชสมัยนี้เองธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยก็เฟื่องฟูขึ้น มีการเปิดโรงแรมต่างๆมากมาย เช่น ในปี พ.ศ.2413(ค.ศ.1870) มีโรงแรมเปิดใหม่คือ Falck's German, Hamburg, Marien, Siam ในปี พ.ศ.2414(ค.ศ.1871) Carter's, Norfolk
แต่โรงแรมทั้งหมดที่กล่าวไป สร้างขึ้นและบริหารงานโดยชาวต่างชาติทั้งสิ้น
จนกระทั้งปี พ.ศ.2465 พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าบุรฉัตรไชยาทร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นโอรสองค์ที่ 35 ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นผู้บัญาชาการ การรถไฟในสมัยนั้นได้สร้าง โรงแรมหัวหิน ขึ้นมา เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นใกล้กับสถานีรถไฟ เป็นโรงแรมแรกที่สร้างขึ้นด้วยคนไทย มีคนไทยเป็นผู้บริหารงานและเป็นโรงแรมที่เป็นโรงแรมริมชายหาด
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2469 พลเอกเจ้าบุรฉัตร ได้ดัดแปลงวังพญาไท ให้เป็นโรงแรมพญาไท (Palace Hotel)และ ปี พ.ศ.2470 ท่านก็ส้รางโรงแรมราชธานีขึ้นมาด้วย
ดังนั้น เจ้าบุรฉัตรไชยาทร จึงเป็น พระบิดาแห่งการโรงแรมของประเทศไทย
[แก้] ประเภทของโรงแรม
การแบ่งประเภทของโรงแรมสามารถแบ่งได้หลากหลายรูปแบบ แต่ที่นี่จะแบ่งตามจุดประสงค์ของ โรงแรม
[แก้] โรงแรมประเภทธุรกิจ (Commercial Hotel)
โรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่กลางใจเมือง ในเขตธุรกิจ มีจุดประสงค์ให้บริการนักธุรกิจเป็นหลัก และนอกจากนั้นมักจะนิยมใช้เป็นที่จัดงานประชุม หรือ งานเลี้ยง จะมีการบริการที่หรูหรา แต่ช่วงเวลาที่แขกจะเข้าพักมักจะสั้นๆ
[แก้] โรงแรมท่าอากาศยาน (Airport Hotel)
โรงแรมประเภทนี้จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสนามบิน แขกที่เข้าพักจะเป็นพวกนักทัศนาจรที่มารอต่อเครื่องบิน การเข้าพักมักจะเป็นช่วงสั้นๆ ไม่ค้างคืนเกิน 1 วัน หรือในบางกรณีก็จะเป็นนักธุรกิจที่มาเข้าพักแบบ โรงแรมธุรกิจก็เป็นได้
[แก้] โรงแรมพักอาศัย (Residential Hotel)
โรงแรมประเภทนี้ มักจะเป็นโรงแรมที่เปิดให้เข้าพักเป็นระยะเวลานานๆ 1 เดือนขึ้นไป มีลักษณะคล้าย คอนโดมิเนียมที่มีบริการแบบโรงแรม เพียงแต่ความหรูหราอาจไม่เทียบเท่า
[แก้] โรงแรมเพื่อการพักผ่อน (Resort Hotel)
โรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่ต่างจังหวัด ในภูมิประเทศที่ดี ห้องพักมักจะแยกเป็นส่วนๆ เป็นบ้านหรือ หลังคาเรือนแยกต่างหาก ในโรงแรมจะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น การปั่นจักรยาน เล่นกอล์ฟ ขี่ม้า เดินป่า สปา เพราะจุดประสงค์ของแขกที่เข้าพักโรงแรมประเภทนี้คือการพักผ่อนเป็นหลัก ระยะเวลาเข้าพักจึงมีระยะเวลาในช่วง 5-7 วัน การบริการจะเป็นแบบสบายๆ เป็นกันเอง
[แก้] โรงแรมคาสิโน (Casino Hotel)
โรงแรมประเภทนี้จะมีบริการที่หรูหรามาก ห้องพักสวยงาม มีราคาแพง แขกที่เข้าพักจะเข้ามาเล่น การพนันเป็นส่วนใหญ่ โรงแรมประเภทนี้จะดึงดูดลูกค้าด้วยการพนัน ความบันเทิง โรงแรมชนิดนี้ไม่มีในประเทศไทยเนื่องด้วยกฏหมายการพนันเป็นสิ่งผิดกฏหมาย แต่แม่แบบที่ชัดเจนคือ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
[แก้] โรงแรมประเภทที่พักและอาหาร (Bed and Breakfast Hotel)
โรงแรมชนิดนี้จะเป็นโรงแรมที่มีเพียงห้องพักและอาหารเช้าเท่านั้น ไม่มีการบริการอะไรมากนัก เหมาะกับนักเดินทางที่มีงบที่จำกัด ราคาห้องพักย่อมเยา แขกส่วนหนึ่งก็ชอบเพราะมีความเป็นกันเองดี
[แก้] โรงแรมบังกะโลว (Bangalo Hotel)
โรงแรมชนิดนี้จะมีเพียงที่พักให้เช่าในราคาประหยัดมาก แต่ไม่มีอาหารบริการให้ นักท่องเที่ยวต้อง เตรียมมาเอง ในบางโรงแรมประเภทนี้จะมีพื้นที่เตรียมให้ทำอาหารไว้ให้
[แก้] โมเทล (Motel)
เกิดขึ้นในประเทศอเมริกา ซึ่งนักเดินทางที่ต้องขับรถระยะไกลๆ แล้วต้องการที่พักที่สามารถเอารถไป จอดได้ที่ห้องพักของตน แขกที่เข้าพักจะพักระยะเวลาสั้นๆเพียงข้ามคืน ส่วนใหญ่มักอยู่ริมทางหลวง
[แก้] โรงแรมที่ติดสถิติโลก
อ้างอิงจากหนังสือ The Guiness Book of World Record
- โรงแรมที่สูงที่สุดในโลกคือ เบิร์จอัลอาหรับ ในเมือง ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความสูง 321 เมตร
- โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส MGM Grand Las Vegas ใน ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา โดยมีจำนวนห้อง 5690 ห้อง โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก 10 อันดับ อยู่ในลาสเวกัสถึง 9 อันดับ
- โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคือ โฮชิเรียวคัน (Hoshi Ryokan)อวาซู ประเทศญี่ปุ่น เปิดทำคำการตั้นแต่ปี ค.ศ.717 และยังคงดำรงกิจการมาถึงปัจจุบัน
[แก้] สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม
- สระว่ายน้ำ
- สถานที่ออกกำลังกาย
- บริการสำหรับนักธุรกิจ
- คอฟฟี่ชอป
- บาร์
- ดิสโก้เทค
ทั้งนี้สิงอำนวยความสะดวกทั้งหลายขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรม
[แก้] โรงแรมที่มีชื่อเสียงในโลก
- Cecilienhof (พอทสดัม, เยอรมนี)
- Waldorf Astoria (นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา)
- Raffles Hotel (สิงคโปร์)
- Hotel Sacher (เวียนนา, ออสเตรีย)
- Ritz Hotel (ลอนดอน, อังกฤษ)
- Hotel Chelsea (นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา)
- Beverly Hills Hotel (แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา)
- the Chateau Marmont (แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา)
- Hotel George (ปารีส, ฝรั่งเศส)
- Palazzo Versace hotel (ควีนส์แลนด์, ออสเตรเลีย)
- เบิร์จอัลอาหรับ (ดูไบ)
- The Oriental (กรุงเทพ, ประเทศไทย)