อเลสซานโดร เดล ปีเอโร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อเต็ม | Alessandro Del Piero | |
วันเกิด | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 | |
สถานที่เกิด | Conegliano ประเทศอิตาลี | |
ส่วนสูง | 173 ซม. (5 ฟุต 8 นิ้ว) | |
ตำแหน่ง | กองหน้า | |
ข้อมูลสโมสร | ||
สโมสรปัจจุบัน | ยูเวนตุส | |
หมายเลข | 10 | |
สโมสรอาชีพ* | ||
ปี | สโมสร | ลงเล่น (ประตู) |
1991-1993 1993- |
ปาโดวา ยูเวนตุส |
14 (1) 493 (202) |
ทีมชาติ** | ||
1995- | อิตาลี | 80 (27) |
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้ทีมสโมสร |
อเลสซานโดร เดล ปีเอโร (Alessandro Del Piero) (เกิด 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 ที่เมือง Conegliano ประเทศอิตาลี หรือที่เรียกจนคุ้นหูกันว่า "อาเล่" ปัจจุบันเป็นกัปตันทีม ยูเวนตุส และดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ยูเวนตุส เดลปีเอโร่ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีม ปาโดว่า ก่อนที่จะถูกยูเวนตุสดึงตัวมาร่วมทีม เนื่องจากฝีเท้าที่แพรวพราว และเมื่อเขามา เขาก็ไม่ทำให้แฟนๆยูเวนตุสต้องผิดหวัง เมื่อเขาสามารถช่วยให้ทีมของเขา ได้เป็นแชมป์ถึงหลายรายการ และล่าสุด เขาก็ยังได้แชมป์โลกกับฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ในศึก ฟุตบอลโลก 2006 ที่ผ่านมาอีกด้วย เดล ปีเอโร่นั้นมีลีลาการเล่นที่สวยงาม มีเทคนิคการเลี้ยงบอลที่ดี การเปิดบอลก็แม่นยำ แล้วก็ลูกเตะฟรีคิกก็ยังเป็นทีเด็ดอีกอย่างของเดล ปีเอโร่อีกด้วย เดล ปีเอโร่มีทีเด็ดอยู่ที่การยิงจากฝั่งซ้ายของเขตโทษ ซึ้งเป็นการยิงที่เฉียบขาด มีชื่อเรียกกันว่า "เดอะ เดล ปีเอโร่ โซน"
[แก้] สโมสร
เดล ปีเอโร่ เริ่มต้นอาชีพ นักฟุตบอลของเขากับ สโมสรฟุตบอลปาโดว่า ตั้งแต่อายุ16ปี และย้ายมาอยุ่กับสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสในปีค.ส.1993 โดยลงเล่นให้กับยูเวนตุสนัดแรก ในการพบกับ ฟอจจา และมายิงประตูได้นัดในถัดมาที่พบกับ เรจจิน่า เขาสามารถยิง แฮทริกได้ครั้งแรกในนัดที่พบกับ ปาม่า ตั้งแต่เดล ปีเอโร่มาค้าแข่งอยู่กับยูเวนตุส เขาก็พายูเวนตุสคว้าแชมป์ต่างๆมากมายหลายรายการ ทั้งแชมป์ลีค และแชมป์สโมสรยุโรป ในฤดูกาล1998/99 เดล ปีเอโร่ก็ต้องพบกับช่วงเลวร้ายที่สุดของชีวิตนักฟุตบอล เมื่อนัดที่ ยูเวนตุสพบกับอูดิเนเซ่ โดยนัดนี้เองที่เดล ปีเอโร่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณหัวเข่า ซึ่งทำให้เอ็นหัวเข่าขาด และต้องพักรักษาตัวถึง 1ฤดูกาลเต็มๆ แต่หลังจากการรักษาตัว เดล ปีเอโร่ก็เริ่มกลับมาลงเล่นให้กับทีมอีกครั้ง แล้วก็พายูเวนตุส คว้าแชมป์ลีคได้อีก2สมัย ทั้งยังได้เข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคอีกด้วย ปัจจุบันเขาเป็นกัปตันทีมยูเวนตุสและดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร โดยตอนนี้เขายิงไปแล้วทั้งสิ้น 195ประตู แต่จบฤดูกาล2005/06 ยูเวนตุสถูกปรับตกชั้น เนื่องจากคดีล้มบอล ทำให้ยูเวนตุสต้องลงไปแข่งใน ซีเรียบีทำให้ดาวดังของทีมหลายคนต้องออกจากสโมสรไป แต่เดล ปีเอโร่ ตัดสินใจอยู่ช่วยทีมต่อไป พร้อมกับพาเวล เนดเวด และจานลุยจิ บุฟฟ่อน ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่เหลืออยู่ ทำให้ตอนนี้ ทั้ง3 กลายเป็นตำนานของสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสไปแล้ว
[แก้] ทีมชาติ
เดล ปีเอโร่ ได้ทำศึกฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1998 ซึ่งครั้งนั้นเขามาแรงมาก เนื่องจากหลายคนคาดว่าเขาจะเป็นตัวแทนของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ตำนานเปียทองคำของอิตาลี แต่ในครั้งนั้น บาจโจ้ก็ยังติดฟุตบอลทีมชาติอิตาลีอยู่เหมือนกัน ซึ่ง ผลงานในระดับชาติคงเดล ปีเอโร่นั้น ไม่ค่อยดีนัก ช่วงหลังมาเขาไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวจริงบ่อยเท่าไร โดยในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี2000นั้น อิตาลีได้เข้าชิงชนะเลิศ พบกับฝรั่งเศสอิตาลีได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก มาร์โก เดลเวคคิโอ้ และเกมส์ทำท่าจะดี และเดล ปีเอโร่ ก็ได้ลงมาในครึ่งหลัง หลังจากนั้นเขามีโอกาสทองในการทำประตูฝรั่งเศสถึง2ครั้ง แต่เขายิงไม่ผ่านมือของ ฟาเบียง บากเตซ หลังจากนั้นฝรั่งเศสก้มาตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมส์จึงทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ และในช่วงต่อเวลานี่เอง ดาวิด เทรเซเก้ก็มายิงประตูให้ฝรั่งเศสพลิกกลับมาชนะอิตาลี และได้แชมป์ยูโร200ไปครอง ซึ่งนั่นเป้นฝันร้ายของเดล ปีเอโร่ในครั้งนั้น ต่อมาในศึกฟุตบอลโลกปี2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีเป็นเจ้าภาพร่วมกันนั้น อิตาลีฟอร์มไม่ค่อยจะดีนัก โดยนัดแรกชนะได้แต่นัดที่2กลับแพ้ ทำให้นัดที่3ต้องไม่แพ้สถานเดียว โดยนัดทื่3พบกับ เม็กซิโกโดยอิตาลีต้องพบฝันร้ายเมื่อเม็กซิโก ขึ้นนำไปก่อนในครึ่งแรก จากนั้นพอมาครึ่งหลัง เดล เปีเอโร่ ได้โอกาสลงสนาม และเขาก็เป็นผู้โหม่งตีเสมอให้อิตาลีรอดพ้นจากการตกรอบแรกได้ แต่อิตาลีก็ต้องมาตกรอบในนัดถัดมาเมื่อพบกับเกาหลีใต้ซึ้งเป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งนั้น และต่อมาในปี2004 ซึ่งมีศึกยูโรนั้น อิตาลีก็ต้องจบเส้นทางเพียงแค่รอบแรกเท่านั้น แต่ปี2006 อิตาลีกลับมาอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งครั้งนี้อิตาลีมีทั้งฟอร์มและโชค โดยอิตาลีสามารถชนะคู่แข่งมาได้จนถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเขาต้องพบกับเจ้าภาพเยอรมัน และอิตาลีก็มาได้ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ2นาทีสุดท้ายตาก ฟาบิโอ กรอสโซ่ และเดล ปีเอโร่ ก็ยิงลูกสุดสวยในนาทีสุดท้าย และเป็นการลงมาพลิกเกมส์ให้อิตาลีในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้อิตาลีผ่านเข้ารอบ ชิงชนะเลิศไปพบกับฝรั่งเศสตู่แค้นเก่า เกมส์ในเวลาเสมอกัน1-1 จึงต้องต่อเวลาแต่ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ ทำให้ต้องยิงจุดโทษตัดสิน และอิตาลีก็คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นสมัยที่4 และเป็นแชมป์โลก ครั้งแรกของเดล ปีเอโร่อีกด้วย
[แก้] เกียรติประวัติ
- 7 แชมป์ ซีเรียอา : 1994/95,96/97,97/98,2001/02,2002/03 (2004/05,2005/06 โดนลิปคืน เนื่องจากการล้มบอลของสโมสร)
- 4 แชมป์ อิตาเลี่ยน ซุปเปอร์ คัพ : 1995,1997,2002,2003
- 1 แชมป์ โคปปา อิตาเลีย : 1994/95
- 1 แชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค : 1995/96
- 3 เข้าชิง ศึก ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค : 1996/97,1997/98,2002/03
- 1 แชมป์ ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์คัพ : 1996
- 1 แชมป์ สโมสรโลก : 1996
- 1 แชมป์ อินเตอร์ โตโต คัพ : 1999
- 1 แชมป์ เยาวชน อิตาลี : 1994
- 1 เข้าชิง ยูฟ่า คัพ : 1995
- 2 แชมป์ ยูโร U-21 : 1992/94,1994/96
- 1 เข้าชิง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป : 2000
- 1 แชมป์ ฟุตบอลโลก : 2006