Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions ไลท์เซเบอร์ - วิกิพีเดีย

ไลท์เซเบอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไลท์เซเบอร์ (อังกฤษ: Light saber) เป็นอาวุธในเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นและทรงอาณุภาพของอัศวินเจไดในจักรวาลสตาร์วอร์ส มีลักษณะเป็นดาบ(ตามชื่อภาษาอังกฤษ เซเบอร์ แปลว่า ดาบ) แต่แทนที่จะมีใบดาบเป็นโลหะอย่างดาบทั่วไป ใบดาบของไลท์เซเบอร์จะเป็นเลเซอร์พลังสูง ซึ่งสามารถทะลุทะลวงโลหะแข็งได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ไลท์เซเบอร์มีบทบาทสำคัญมากในสตาร์วอร์สทุกภาค ทั้งในภาพยนตร์ เกมส์ และนวนิยาย

สารบัญ

[แก้] ไลท์เซเบอร์ในจักรวาลสตาร์วอร์ส

ใบดาบของไลท์เซเบอร์เป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี "frozen blaster" ลำแสงของใบดาบสามารถตัดผ่านผิวโลหะแข็งเกือบทุกชนิดได้ ยกเว้นใบดาบของไลท์เซเบอร์ด้ามอื่น โลหะจากแร่ cortosis และสนามพลังอื่น ๆ

ในยุคแรกนั้นไลท์เซเบอร์เป็นอาวุธที่ใช้สำหรับการล้อมโจมตี ดังนั้นจึงมีส่วนกำเนิดพลังงานต่างหาก ต้นกำเนิดและส่วนประกอบพลังงานจะถูกย่อให้เล็กลงเพื่อสร้างเป็นอาวุธที่ใช้ในสถานการณ์ทั่วไปในยุคถัดมา การใช้ไลท์เซเบอร์ในการต่อสู้นั้นจำเป็นจะต้องมีทักษะ ความมั่นใจและความคล่องแคล่ว และหากมีความสอดคล้องกับพลังด้วยแล้วก็จะยิ่งมีผลดีมากขึ้น

ในสตาร์วอร์สไตรภาคหลังนั้น ไลท์เซเบอร์สำหรับเจไดจะมีเพียงสีฟ้าและสีเขียว โดยสีแดงนั้นจะเป็นของฝ่ายเจไดมืดหรือซิธ สำหรับใน Expanded Universe (EU) และในไตรภาคแรกนั้นไลท์เซเบอร์จะมีใบดาบหลายสี เช่น ฟ้า เขียว แดง ม่วง ส้ม เงิน น้ำเงินอมเขียว ชมพู บรอนซ์ เหลือง ขาวและทอง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ใน EU ไม่ได้กล่าวถึงนิยามของแต่ละสีและสีใดเป็นของเจไดหรือซิธเอาไว้ ได้มีการกล่าวถึงเหตุที่สีของไลท์เซเบอร์มีน้อยลงตามสื่อต่างๆ ว่า จักรวรรดิได้ทำลายถ้ำที่สร้างคริสตัสสำหรับเจไดนำไปทำไลท์เซเบอร์สีต่างๆ ไป ดังนั้นจึงมีการสร้างคริสตัลสังเคราะห์ขึ้นแทนคริสตัลตามธรรมชาติที่มีอยู่ในถ้ำ ซึ่งโดยปกติจะมีการสร้างคริสตัลสังเคราะห์ขึ้นมาเป็นสีฟ้าและสีเขียวเท่านั้น โอบี-วัน เคโนบีใช้ไลท์เซเบอร์ที่มีใบดาบสีฟ้า ขณะที่ เมซ วินดูใช้ใบดาบสีม่วง

มีไลท์เซเบอร์ที่มีลักษณะพิเศษอยู่ด้ามหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยนักศึกษาเจไดนามว่าแกนโทรีส (Gantoris) โดยมีลักษณะเป็นสีม่วงที่มีรูปแบบเป็นแถบสายรุ้งรอบๆ ใจกลางลำแสงสีขาว สีของใบดาบจะขึ้นอยู่กับคริสตัลที่ใช้เป็นใจกลางในการสร้างดาบ โดยทั่วไปแล้วใบดาบสีฟ้าจะเกี่ยวโยงกับเจไดผู้คุ้มครอง (Guardian ) สีเขียวจะเกี่ยวโยงกับเจไดทูต (Consular) และสีเหลืองจะเกี่ยวโยงกับเจไดผู้พิทักษ์ (Sentinel) ส่วนสีแดงนั้นจะมีการเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิดกับซิธ อย่างไรก็ตาม เจไดหรือซิธแต่ละคนก็มีอิสระในการเลือกใช้สีดาบ ก่อนหน้านั้นในการสู้รบที่รูซาน (Ruusan) ใบดาบไฟก็เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ยุคหลังจากนั้นส่วนใหญ่จะมีการใช้คริสตัลจากระบบดาวอิลุม (Ilum) ซึ่งจะให้สีเขียวและฟ้า ส่วนเมซ วินดูนั้นกล้าเผชิญหน้ากับชาวเฮอร์ริเคนจึงได้คริสตัลสีม่วงที่หายากมา ในยุค New Jedi Order เจไดจะใช้ดาบสีแตกต่างกันมากมาย เช่น ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า ม่วง และฟ้าอ่อน

คริสตัลสังเคราะห์สีแดงที่นิยมใช้ในเหล่าซิธนั้นสามารถสร้างใบดาบที่มีพลังได้แข็งแกร่งกว่าคริสตัลสีฟ้าหรือสีเขียว แต่พลังที่ได้นั้นไม่มีความบริสุทธิ์เท่าคริสตัลจากธรรมชาติ จึงไม่นิยมนำมาใช้ในการสร้างไลท์เซเบอร์

[แก้] ชนิดของไลท์เซเบอร์

เกรทไลท์เซเบอร์ (Great Lightsaber) นั้นเป็นดาบที่หายาก มีลักษณะคล้ายคลึงกับไลท์เซเบอร์ทั่ว ๆ ไป คือใช้คริสตัลเป็นศูนย์กลางและมีพลังในการสร้างดาบได้ยาวถึง 300 ซม. (9.8 ฟุต)

ดูออล-เฟสไลท์เซเบอร์ (Dual-Phase Lightsaber) นั้นก็หายากเช่นกัน มีลักษณะที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีความยาวของใบดาบที่แตกต่างกัน 2 ระดับ ไลท์เซเบอร์ของดาร์ธเวเดอร์นับได้ว่าเป็นตัวอย่างของดาบชนิดนี้ ซึ่งจะมีปุ่มอยู่ที่ด้ามจับเพื่อช่วยให้ปรับขนาดความยาวได้ตามต้องการ

อิเล็กตรัมไลท์เซเบอร์ (Electrum Lightsaber) คือดาบที่ใช้กันทั่วไป โดยมีด้ามโลหะสีแวววาวคล้ายทอง

นอกจากนี้แล้วยังมีไลท์เซเบอร์รูปแบบต่าง ๆ อีกมากโดยมีขนาดด้ามจับและใบดาบที่สั้นกว่า ( รู้จักกันทั่วไปในชื่อชอร์ตไลท์เซเบอร์ (Short Lightsaber) หรือไลท์แดร็กเกอร์ (Lightsaber) ซึ่งสามารถใช้เป็นอาวุธสำรองหรือจะใช้เป็นอาวุธหลักสำหรับเจไดที่มีรูปร่างเล็กๆ อย่างโยดาก็ได้

ดับเบิลเบลดไลท์เซเบอร์ (Double-Bladed Lightsaber) หรือ เซเบอร์สตาฟ (Saber-Staff) เป็นไลท์เซเบอร์ที่มีลักษณะพิเศษ ด้ามจับมีขนาดยาวประมาณสามเท่าของไลท์เซเบอร์มาตรฐาน และมีลำแสงของใบดาบอยู่ที่ปลายด้ามจับทั้งสองด้าน ซึ่งสามารถเปิดปิดลำแสงแต่ละอันได้อย่างอิสระต่อกัน ซึ่งทำให้มีประโยชน์ในการใช้งานได้อย่างรอบตัว อาวุธชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Exar Kun ดาร์ธลอร์ดแห่งซิธ เมื่อราว 4000 ปี BBY ดาบของ Kun นั้นเป็นที่มีชื่อเสียง เนื่องจากเขาสามารถจับด้ามดาบได้กึ่งกลางพอดี ซึ่งทำให้พลังของใบดาบแตกต่างจากอาวุธอันทรงอานุภาพของเหล่าซิธและเจไดมืดคนอื่นๆแห่งสาธารณรัฐซิใหม่แห่ง Darth Revan นอกจาก Exar Kun แล้วก็ยังมีผู้ที่ใช้ไลท์เซเบอร์ชนิดนี้อีก เช่น Zez-Kai Ell, Darth Bandon, Bastila Shan, Darth Maul และ Azrakel การใช้ดับเบิลเบลดไลท์เซเบอร์เป็นอาวุธหลักไม่เป็นที่ยอมรับในเหล่าเจไดเนื่องจากโดยธรรมชาติและการใช้งานแล้วไลท์เซเบอร์ชนิดนี้มีความแข็งกร้าว แม้ว่าเจไดส่วนใหญ่จะใช้ดับเลิดเบลดไลท์เซเบอร์ในการฝึกฝน แต่เจไดบางคนก็มีความชำนาญในการใช้อาวุธชนิดนี้มาก

ไลท์เซเบอร์อีกชนิดหนึ่งได้แก่ไลท์คลับ (lightclub) ของเจไดมืดนาม Gorc ซึ่งมีขนาดใหญ่และหนักมาก และอีกชนิดหนึ่ง คือ ไลท์วิป (lightwhip) ซึ่งเป็นอาวุธที่หายาก มีผู้ครอบครองคือ Githany, Ona Nobis และ Lady Lumiya

[แก้] ประวัติ

ไลท์เซเบอร์เป็นอาวุธหลักของเจไดแต่ก็นิยมใช้ในหมู่ซิธด้วยเช่นกัน หลังยุคการทำลายล้างเจได ไลท์เซเบอร์นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ไลท์เซเบอร์นั้นโดยปกติแล้วจะจำกัดการใช้งานเฉพาะเจได เนื่องจากเป็นอาวุธที่ค่อนข้างอันตรายเกินไปและปืนแบลสเตอร์นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม ไลท์เซเบอร์นั้นก็มีคุณค่าสำหรับผู้สะสมและมีการขายกันในตลาดมืดด้วย

โดยปกติแล้ว เจไดจะได้รับไลท์เซเบอร์ในวันแรกของการฝึกฝน อาจารย์เจไดจะย้ำเสมอว่าไลท์เซเบอร์นั้นคือตัววัดความก้าวหน้าของนักศึกษา โดยดูจากสมาธิและเทคนิคในการใช้ที่ก้าวหน้าขึ้น และในการทดสอบขั้นสุดท้ายของนักศึกษาเจไดนั้น คือการสร้างไลท์เซเบอร์ของตนเอง


คริสตัลคือหัวใจของคมดาบ

หัวใจหรือคริสตัลของเจได

เจไดคือคริสตัลของพลัง

พลังคือคมดาบของหัวใจ

ทั้งสามสิ่งนี้หลอมหลวมเป็นสิ่งเดียวกัน

คริสตัล คมดาบ เจได

เจ้าเป็นหนึ่งเดียว

คำกล่าวในพิธีสร้างไลท์เซเบอร์ จาก Clone Wars Micro Series


[แก้] การฝึกฝน

ในการฝึกฝนโดยทั่วไปจะใช้ไลท์เซเบอร์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแล้วอาจจะใช้ไลท์เซเบอร์ที่มีพลังหรือขนาดลดลงก็ได้ เช่น โยดาที่ใช้ไลท์เซเบอร์ขนาดเล็กลง ในการฝึกฝนมักจะใช้สีชมพูหรือสีฟ้า และไม่เป็นอันตรายมากนัก

เมื่ออยู่ในมือของผู้ที่ได้รับการฝึกฝนการใช้พลังแล้ว ไลท์เซเบอร์นั้นถือเป็นอาวุธที่มีพลังและมีประโยชน์มาก แต่หากอยู่ในมือของผู้ที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนนั้นกลับจะเป็นอันตรายของผู้ถือ เหตุผลหลักก็คือขาดความแม่นยำในการจับด้ามดาบขณะใช้งาน นอกจากนี้แล้วความโค้งของดาบและพลังของดาบจะทำให้ผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนไม่สามารถถืออย่างมั่นคงได้ เช่น ครั้งแรกที่ลุค สกายวอล์กเกอร์จับดาบในเอพพิโสด IV ไลท์เซเบอร์สามารถตัดหรือทะลวงได้ทุกสิ่ง ยกเว้นใบดาบของไลท์เซเบอร์ด้ามอื่นและสนามพลังอื่นๆ ที่มีพลังมากพอจะกันพลังดาบได้ แต่ก็มีไลท์เซเบอร์ชนิดหนึ่งที่ไม่อยู่ภายใต้กฎเหล่านี้ นั่นคือไลท์เซเบอร์ที่ได้จากแร่ cortosis สามารถใช้ตัดใบดาบของไลท์เซเบอร์ด้ามอื่น สนามพลัง โลหะแข็งอื่นๆ หรือแม้แต่หนังหรือกระดองแข็งของสัตว์ เช่น taozin และ Lava Dragon ได้

[แก้] การใช้งาน

สำหรับเจไดสามารถใช้พลังในการใช้ไลท์เซเบอร์กันหรือสะท้อนพลังที่เข้ามาจู่โจม เช่น กระสุนปืนแบลสเตอร์หรือแม้แต่พลังสายฟ้าได้ แต่ไลท์เซเบอร์จะไม่สามารถสะท้อนลำแสงอิออนได้หากไม่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ในการต่อสู้นั้น ไลท์เซเบอร์อาจหลุดจากมือผู้ถือได้ แต่ก็สามารถเรียกคืนมาได้โดยใช้พลัง อันเป็นความสามารถพื้นฐานของเจได รูปแบบในการต่อสู้โดยใช้ไลท์เซเบอร์ (Lightsaber Combat) มีอยู่หลายรูปแบบซึ่งรวมถึงรูปแบบที่ห้าของดาร์ธเวเดอร์ อันเป็นท่าผสมระหว่างรูปแบบการใช้ไลท์เซเบอร์สองรูปแบบด้วย (รูปแบบที่สองและสาม) รูปแบบพื้นฐานนั้นคือรูปแบบแรกซึ่งใช้ในการฝึกฝนในขั้นแรกของเจได เป็นรูปแบบที่เรียกว่า Sarlacc โดยทั่วไปแล้วท่านี้จะมีไว้สำหรับทั้งการรุกและรับ ท่าสุดท้ายเป็นรูปแบบไลท์สไตล์ ซึ่งเน้นการโจมตีที่รวดเร็วและหนักหน่วงแต่ให้อันตรายน้อย

นอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่นๆ ในการใช้ไลท์เซเบอร์อีก เช่นการใช้ดับเบิ้ลเบลดไลท์เซเบอร์อย่างที่เห็นดาร์ธมอลใช้ในเอพพิโสด Iซึ่งรับเป็นท่าหนึ่งที่หาดูได้ยากที่สุด

[แก้] การสร้างไลท์เซเบอร์

ไลท์เซเบอร์สร้างขึ้นด้วยท่อโลหะขัดเงาขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต ซึ่งจะมีช่องตรงกลางหลายด้ามด้านหนึ่งให้พลังงานแอนติโปรตอนบริสุทธิ์ไหลผ่านทำหน้าที่เป็นใบดาบ ไลท์เซเบอร์ทุกด้ามจะประกอบไปด้วยวัสดุพื้นฐานคล้าย ๆ กันคือ

ด้ามจับ (handgrip) โลหะส่งพลัง, ปุ่มกด, สวิตช์, หรืออุปกรณ์สร้างพลังงานภายใน (activation stud plate, button, switch, or internal Force-activated mechanism) ปุ่มเซฟตี้ (safety or “dead-man’s” switch) แหล่งกำเนิดพลัง (emitter matrix) คริสตัลหลัก ( ซึ่งสร้างสีให้แก่ใบดาบ) เลนส์รวมแสง (มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่คริสตัล) ตัวปรับความยาวใบดาบ (เฉพาะสำหรับไลท์เซเบอร์ชนิดดูออล-เฟส) เซลล์พลังงาน ช่องปล่อยพลังงาน ท่อพลังงาน ช่องสำหรับรีชาร์จ เครื่องสร้างการไหลเวียนของสนามพลัง วงแหวนสำหรับรัด (อุปกรณ์เสริม) ไลท์เซเบอร์คือพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นโดยตัวควบคุมที่ด้ามดาบโดยุ่งศูยน์กลางไปที่คริสตัลรรมชาติที่จะพบได้บนดาวอิลุม (Ilum) เท่านั้น ในปีที่ 1000 BBY เจไดได้ใช้คริสตัลที่ได้มาจากดาวรูซาน (Ruusan) ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงการทำตามกันมาเป็นประเพณีมากกว่าความจำเป็น เนื่องจากจริงๆ แล้วคริสตัลที่สามารถนำมาใช้สร้างไลท์เซเบอร์ได้นั้นมีอยู่ทั่วไปในกาแล็กซี่ โดยเฉพะในช่วงการฟื้นฟู Jedi Order หลังยุคจักรวรรดิล่มสลาย ในขณะที่เจไดนั้นเน้นเรื่องการใช้คริสตัลที่เหมาะสม ทางฝ่ายซิธนั้นใช้คริสตัลสังเคราะห์ในการสร้างใบดาบสีแดง ซิธบางคนในยุคก่อนหน้านั้นใช้ดาบสีอื่น แต่ก็อาจเป็นเพราะซิธเหล่านั้นเคยเป็นเจไดมาก่อน เมื่อกลายเป็นซิธแล้วจึงยังคงใช้ดาบของตนเมื่อครั้งยังเป็นเจได ใน Shadow of the Empire กล่าวถึงลุค สกายวอล์กเกอร์ว่าใช้คริสตัลสังเคราะห์ในการสร้างไลท์เซเบอร์ของตนเอง ลุคได้สร้างไลท์เซเบอร์ที่มีใบดาบสีเขียวซึ่งสามารถนำมาสรุปได้ว่าซิธนั้นจงใจสร้างดาบของตนให้มีสีแดง

ดูออล-เฟสไลท์เซเบอร์นั้นใช้คริสตัลที่สามารถสร้างระดับพลังที่แตกต่างกันตามที่ต้องการได้ มีสายไฟที่เชื่อมต่อกับไดอะเทียมเซลล์ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานให้แก่ไลท์เซเบอร์ ที่ด้ามของไลท์เซเบอร์ชนิดนี้จะสามารถปรับเปลี่ยนมุมได้ซึ่งจะปรับตำแหน่งของคริสตัล ส่งผลให้ความยาวของด้ามดาบเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและสามารถเปลี่ยนสีได้ ผู้ใช้ไลท์เซเบอร์ชนิดนี้ได้แก่ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ , Micah Giiett, Gantoris และ Corran Horn

ดับเบิ้ลเบลดไลท์เซเบอร์หรือไลท์เซเบอร์สตาฟเป็นไลท์เซเบอร์ที่มีใบดาบสองใบในด้ามเดียวกัน เป็นอาวุธที่จับค่อนข้างยากแต่จะสร้างความอันตรายได้มากหากผู้ใช้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ใช้ไลท์เซเบอร์ชนิดนี้ได้แก่ ซิธลอร์ด Exar Kun, และนักศึกษาซิธนามดาร์ธมอล ไลท์เซเบอร์ของ Exar Kun นั้นเป็นทั้งแบบดับเบิ้ลเบลดและแบบดูออล-เฟส

เมื่อกดสวิชต์เซลล์พลังงานภายในจะสร้างพลังงานไฟฟ้าและเกิดเป็นใบดาบขึ้นจากคริสตัล ลำแสงจากแอนติโปรตอนจะปรากฏขึ้นตามที่ต้องการซึ่งอาจจะเกิดจากการสะท้อนจากคริสตัลชนิดหนึ่งมุม สองมุม หรืออาจหลายมุมตามแต่ที่ใช้ การกดสวิตช์จะก่อให้เกิดลำแสงพลังงานแอนติโปรตอนขั้วบวกขนาดความยาวประมาณหนึ่งเมตรขึ้น ลำแสงแอนติโปรตอนจะจะถูกดูดกลับมาที่ด้ามจับโดยกระแสไฟฟ้าขั้วลบ พลังงานแอนติโปรตอน

[แก้] ความสอดคล้องของความภักดี

“มาสเตอร์ Eeth Koth ข้ามีของบางสิ่งจะคืนท่าน มันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากมือท่านที่ครั้งหนึ่งท่านเคยมอบให้ข้า ด้วยการคืนไลท์เซเบอร์ด้ามนี้ให้ท่าน แสดงถึงความเชื่อมั่นที่ข้ามีต่อท่านเช่นกัน” ---มาสเตอร์วินดู

ประเพณีของเจไดในการมอบดาบให้สมาชิกเจไดท่านอื่นนั้นเรียกว่า “ ความสอดคล้องของความภักดี” (Concordance of Fealty) การแลกเปลี่ยนนี้แสดงถึงความเคารพระหว่างเพื่อนแห่งพลัง และแสดงถึงว่าจะช่วยเหลือกันในการต่อสู้ มารยาทที่ดีในเหล่าเจไดนั้นคือการให้ความเคารพแก่กัน

[แก้] ไลท์เซเบอร์ในภาพยนตร์

ในภาพยนตร์สตาร์วอร์สฉบับดั้งเดิมนั้น ตัวด้ามดาบถูกส้รางขึ้นมาจากลำกล้องใส่แบตเตอรี่แฟลชของกล้องถ่ายรูป และใบดาบก็ถูกออกแบบมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการทำภาพเรืองแสงในกล้องถ่ายรูป ใบดาบนั้นมีสามด้านซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยตัวสะท้อนแสงอันเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในการทำป้ายสะท้อนแสงบนทางด่วน ในการถ่ายทำจะหันหลอดไฟที่ใช้เป็นด้ามดาบไปทางกล้องที่ใช้ถ่ายโดยให้สะท้อนกับแผ่นสะท้อนแสงในมุม 45 องศาจึงทองเห็นเป็นดาบเรืองแสงจากมุมกล้องที่จับภาพอยู่ ตัวมอเตอร์ในด้ามดาบจะคอยหมุนใบดาบซึ่งจะช่วยให้ใบดาบสะท้อนแสงในมุมกล้องถ่ายภาพ แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจนักและต้องคอยจ้างทีมงานแอนนิเมชั่นให้มาคอยตกแต่งแสงของดาบด้วย

ใน The Empire Strikes Back ใบดาบของไลท์เซเบอร์จะเป็นไม้ยาวสีขาวโดยลำแสงสว่างนั้นจะได้จากการทำแอนนิเมชั่น

ใน Return of the Jedi และภาคถัดจากนั้น ตัวด้ามดาบจะถูกทำมาจากอะลูมิเนียม และแทนที่จะใช้เทคนิคการสร้างแสงแบบแอนนิเมชั่นก็มีการนำไม้คาร์บอนมาใช้เป็นใบดาบในฉากการต่อสู้ ในเอพพิโสด I และ II มีการเปลี่ยนด้ามจับเป็นเรซิ่นและใช้ท่ออะลูมิเนียม ส่วนในเอพพิโสด III นั้นเปลี่ยนจากอะลูมิเนียมเป็นสารผสมระหว่างไฟเบอร์และคาร์บอนซึ่งผลิตขึ้นมาเป็นการเฉพาะมาใช้แทน ส่วนใบดาบในทั้งสามภาคหลังนั้นเป็นการสร้างขึ้นโดยวิธีดิจิตอล

สำหรับแฟนภาพยนตร์สตาร์วอร์สแล้วก็มีการสร้างลำแสงไลท์เซเบอร์โดยเทคนิคมากมาย ส่วนใหญ่ก็ได้แก่โปรแกรม AlamDV, Adobe After Effects, Adobe Photoshop, MainVision, The GIMP หรือ Blender

เสียงของดาบนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในภายหลังโดยทีมเอฟเฟคทางด้านเสียง แต่ยวน แมกเกรเกอร์นั้นให้เสียงไลท์เซเบอร์ของตนเองในเอพพิโสด I ซึ่งเลียม นีสันและเฮย์เดนคริสเตนเซ่นก็ให้เสียงเองด้วยเช่นกันเสียงของไลท์เซเบอร์นั้นเป็นเสียงผสมระหว่างลำแสงของเครื่องโปรเจคเตอร์และเสียงสัญญาณรบกวนจากโทรทัศน์ที่ใช้ระบบเคเบิลที่ไม่ได้ป้องกันเสียงรบกวน

Static Wikipedia (no images)

aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -

Static Wikipedia 2007 (no images)

aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -

Static Wikipedia 2006 (no images)

aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu

Static Wikipedia February 2008 (no images)

aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu