ยี่สก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยี่สก | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |||||||||||||||
|
|||||||||||||||
|
|||||||||||||||
Probarbus jullieni Sauvage, ค.ศ. 1880 |
|||||||||||||||
|
ยี่สก เป็นชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Probarbus jullieni อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) วงศ์ย่อย Cyprininae - Cyprinini เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ หัวค่อนข้างโต มีหนวดสั้น 1 คู่ อยู่มุมปากบน ปากเล็กยืดหดได้ อยู่คล้อยลงมาใต้ส่วนหัว สีของลำตัวเหลือง มีแถบสีดำ 7 แถบ พาดไปตามความยาวของ ลำตัว แถบสีดำเหล่านี้จะพาดอยู่ระหว่างรอยต่อของเกล็ด ตาสีแดง ครีบทุกครีบสีชมพู อยู่ตามแม่น้ำที่พื้นที่เป็นกรวด หินหรือทราย ในฤดูผสมพันธุ์ปลาตัวผู้จะเปลี่ยนสีลำตัวเป็นสีคล้ำอมม่วงและมีตุ่มสิวขึ้นบริเวณข้างแก้มและครีบอก วางไข่ในฤดูหนาว โดยจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ๆ ฝูงละ 30 - 40 ตัว บริเวณที่วางไข่อยู่ท้ายเกาะกลางน้ำ กินหอยและตัวอ่อนแมลงน้ำที่อยู่บริเวณพื้นดิน ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พบมีความยาว 1 เมตร และมีน้ำหนักถึง 40 กิโลกรัม
พบตามแหล่งน้ำใหญ่ของภาคกลาง ภาคเหนือและอีสาน เช่น แม่น้ำโขง แม่น้ำน่าน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง
ยี่สก มีชื่อเรียกแตกต่างออกไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น " เอิน " หรือ " เอินตาแดง " ในภาคอีสาน " ยี่สกทอง " หรือ " อีสก " หรือ " กะสก " ในแถบแม่น้ำน่าน และที่จังหวัดเชียงรายเรียกว่า " ปลาเสือ " เป็นต้น
เป็นปลาที่มีรสชาติอร่อยมาก เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดต่าง ๆ ริมน้ำ เช่น ที่จังหวัดกาญจนบุรี หรือราชบุรี โดยเฉพาะที่กาญจนบุรีป้ายชื่อถนนต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมืองทำเป็นรูปปลาชนิดนี้เลยทีเดียว ปลายี่สกมีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 80-100 บาท มีหนังหนา เนื้อเหลือง ละเอียดอ่อน นิ่ม รสหวาน ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้มยำ ต้มเค็ม แกงเหลือง ทอดมัน ทอดฟู นึ่ง รมควัน เจี๋ยน นึ่งกับเครื่องปรุงแบบจีน ชุบแป้งทอดรับประทานได้อร่อยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ยี่สกกลายเป็นปลาที่อยู่สถานะใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ แต่ปัจจุบันกรมประมงสามารถเพาะพันธุ์ได้ด้วยการผสมเทียม สำเร็จขึ้นในปี พ.ศ. 2517 และสนับสนุนให้เลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้ด้วย
[แก้] ลิงก์ภายนอก
หมวดหมู่: ปลาน้ำจืด | วงศ์ปลาตะเพียน | ปลาไทย | ปลาตู้