Ebooks, Audobooks and Classical Music from Liber Liber
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z





Web - Amazon

We provide Linux to the World


We support WINRAR [What is this] - [Download .exe file(s) for Windows]

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
SITEMAP
Audiobooks by Valerio Di Stefano: Single Download - Complete Download [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Alphabetical Download  [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Download Instructions

Make a donation: IBAN: IT36M0708677020000000008016 - BIC/SWIFT:  ICRAITRRU60 - VALERIO DI STEFANO or
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
ยอดเขาเอเวอเรสต์ - วิกิพีเดีย

ยอดเขาเอเวอเรสต์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ยอดเขาเอเวอเรสต์

ยอดเขาเอเวอเรสต์เมื่อมองจากยอดเขากาฬปัตตาร์
ความสูงจากระดับน้ำทะเล 8,844.43 เมตร (29,017 ฟุต)
อันดับ 1 ในบรรดายอดเขาแปดพันเมตร
ละติจูด: 27 องศา 59 ลิปดา 16 พิลิปดา เหนือ
ลองจิจูด: 86 องศา 56 ลิปดา 40 พิลิปดา ตะวันออก
ที่ตั้ง: พรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต
เทือกเขา: หิมาลัย
การไต่ขึ้นสู่ยอดเขาครั้งแรก: โดย เซอร์เอดมันด์ ฮิลลารี และ เตนจิง นอร์เก
ในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1953
เส้นทางปีนเขาที่ง่ายที่สุด: จากเซาท์โคล ประเทศเนปาล

ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest) เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ในทางภูมิรัฐศาสตร์ ยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต โดยชาวเนปาลเรียกยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า สครมาถา (ภาษาสันสกฤต: सगरमाथा หมายถึง หน้าผากแห่งท้องฟ้า) ส่วนชาวทิเบตขนานนามยอดเขาแห่งนี้ว่า โชโมลังมา (จากภาษาจีน: 珠穆朗玛 [จูมู่หลั่งหม่า] หมายถึง มารดาแห่งสวรรค์)

ชื่อยอดเขาเอเวอเรสต์นั้น ตั้งโดย เซอร์แอนดรูว์ วอ นักสำรวจประเทศอินเดียชาวอังกฤษ เพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์จอร์จ อีฟเรสต์< นักสำรวจประเทศอินเดียรุ่นก่อนหน้า (คำว่า Everest นี้ คนส่วนมากอ่านออกเสียงเป็น เอเวอเรสต์ ขณะที่เซอร์จอร์จอ่านออกเสียงชื่อสกุลของตัวเองว่า อีฟเรสต์) ซึ่งก่อนหน้านั้นนักสำรวจเรียกยอดเขาแห่งนี้เพียงว่า ยอดที่สิบห้า (Peak XV)

คนทั่วไปจดจำชื่อเอเวอเรสต์ได้ในฐานะยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่สำหรับชาวเชอร์ปาและนักปีนเขาบางคนแล้ว ยอดเขาเอเวอเรสต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดที่สูงที่สุดบนพื้นโลกเท่านั้น หากยังเป็นจุดหมายสูงสุดในชีวิตพวกเขาด้วย การไปให้ถึงยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เมื่อยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกพิชิตได้ นั่นหมายความว่าขีดจำกัดของมนุษยชาติได้เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว

[แก้] ที่สุดของความสูง

เมื่อปี ค.ศ. 1952 รัฐนาถ สิกดาร์ นักคณิตศาสตร์และนักสำรวจจากเบงกอล เป็นคนแรกที่ประกาศว่าเอเวอเรสต์คือยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก จากการคำนวณทางตรีโกณมิติ โดยอาศัยข้อมูลที่วัดด้วยกล้องส่องแนวในที่ที่ไกลจากยอดเขาไป 150 ไมล์ ณ ประเทศอินเดีย

ในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ทางการจีนได้ส่งคณะเดินทางสำรวจไปที่ยอดเขา เพื่อคำนวณความสูงของยอดเขา ในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2548 สำนักงานสำรวจและทำแผนที่แห่งชาติจีน ได้ทำการวัดครั้งล่าสุด พบว่ายอดเขาเอเวอเรสต์มีความสูง 8,844.43 เมตร (29,017 ฟุต 2 นิ้ว) และอาจมีการคลาดเคลื่อนจากการวัดเล็กน้อย

ในปี ค.ศ. 1956 ยอดเขาเอเวอเรสต์วัดความสูงได้ 29,002 ฟุต ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1950 การวัดทำได้แม่นยำขึ้น และให้ความสูง 29,028 ฟุต หรือ 8,848 เมตร ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ใช้อ้างถึงโดยทั่วไป และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเนปาล อย่างไรก็ดี จากการติดตั้งเครื่องมือที่ยอดเขาของทีมสำรวจสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1999 และทำการวัดความสูงด้วยจีพีเอสแล้ว พบว่าความสูงที่แท้จริงของยอดเขาเอเวอเรสต์ในขณะนั้นคือ 29,035 ฟุต หรือ 8,850 เมตร ทั้งนี้ยอดเขาเอเวอเรสต์ยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ปีละไม่กี่เซนติเมตร เนื่องจากการที่แผ่นเปลือกโลกยังคงชนกันอยู่

ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดเมื่อวัดจากระดับน้ำทะเล แต่ก็ยังกล่าวได้ไม่เต็มปากเต็มคำนักว่ายอดเขาเอเวอเรสต์เป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เนื่องจากมีอีกสองยอดเขาที่ดูจะสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ เมื่อใช้เกณฑ์การวัดที่ต่างกัน ยอดเขาแรกคือ ยอดเขาเมานาลัว ในหมู่เกาะฮาวาย ซึ่งถ้าวัดความสูงจากฐานที่จมอยู่ในทะเลแล้วจะพบว่ายอดเขานี้สูงกว่า 9 กิโลเมตร เลยทีเดียว แต่เมื่อวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาเมานาลัวจะสูงเพียง 13,680 ฟุต หรือ 4,170 เมตรเท่านั้น   อีกยอดเขาหนึ่งคือ ยอดเขาคิมโบราโซ ในประเทศเอกวาดอร์ ที่ถ้าวัดจากจุดศูนย์กลางโลกแล้วจะสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ 2,150 เมตร ทั้งนี้เพราะโลกมีลักษณะป่องตรงกลาง แต่เมื่อวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาคิมโบราโซมีความสูง 6,272 เมตร

เป็นที่น่าสังเกตว่าจุดที่ลึกที่สุดในมหาสมุทร มีความลึกมากกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยร่องลึกแชลเลนเจอร์ในร่องลึกบาดาลมาเรียนานั้นลึกมากซะจนถ้าวางยอดเขาเอเวอเรสต์ลงไป ยอดเขาเอเวอเรสต์จะยังคงจมอยู่ในน้ำเป็นระยะทางเกือบไมล์

[แก้] การพิชิตยอดเขา

ภาพภูเขาเอเวอเรสต์ในมุมกว้าง
ภาพภูเขาเอเวอเรสต์ในมุมกว้าง

ประวัติการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์เริ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20

  • ในปี ค.ศ. 1921 คณะเดินทางจากอังกฤษคณะแรกได้เดินทางมาเพื่อสำรวจหาเส้นทางการข้ามธารน้ำแข็งรงบุก
  • ในปี ค.ศ. 1922 นักปีนเขาชาวเชอร์ปาเจ็ดคนเสียชีวิตจากหิมะถล่ม นับเป็นครั้งแรกของการเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ถูกบันทึกไว้ ในปีเดียวกันนี้ คณะเดินทางจากอังกฤษคณะที่สองได้ไต่ขึ้นสู่ระดับความสูง 8321 เมตร
  • ในปี ค.ศ. 1924 คณะเดินทางจากอังกฤษคณะที่สามเดินทางเข้าใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ จอร์จ มัลลอรี และ แอนดรู เออร์ไวน์ ตัดสินใจเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา การเดินทางของเขาทั้งสองในครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ไม่มีวันหวนกลับ วันที่ 8 มิถุนายน เวลา 12.50 น. นักเดินทางคนอื่น ๆ เห็นทั้งสองอยู่ไม่ไกลจากยอดเขา จากนั้นมีเมฆลอยมาปกคลุม และไม่มีใครเห็นทั้งสองคนนี้อีกเลย ในปี ค.ศ. 1979 หวังฮงเป่า นักปีนเขาชาวจีนบอกกับเพื่อนร่วมทางว่าเขาพบศพศพหนึ่งในปี ค.ศ. 1975 และนั่นน่าจะเป็นศพของเออร์ไวน์ แต่โชคไม่ดีที่หวังฮงเป่าตกเขาเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้บอกอะไรเพิ่มเติม ในปี ค.ศ. 1999 คณะเดินทางวิจัยมัลลอรีเออร์ไวน์ได้พบศพของมัลลอรีใกล้แคมป์จีนเก่า ส่วนศพของเออร์ไวน์นั้น แม้จะมีการค้นหาอย่างหนักหน่วงในปี ค.ศ. 2004 แต่ก็ยังไม่พบ

เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักปีนเขาว่ามัลลอรีและเออร์ไวน์ได้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์แล้วหรือไม่ นักปีนเขาส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามัลลอรีและเออร์ไวน์ได้ไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าทั้งคู่ได้ไปถึงหินขั้นที่สอง (การไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์จากทางด้านเหนือต้องผ่านหินสามขั้น) แต่นักปีนเขาทั้งหลายเชื่อว่าถ้าทั้งคู่ผ่านตรงนี้ไปได้ การไปถึงยอดเขาก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก เพราะไม่มีอุปสรรคใหญ่ใดๆ อีกแล้ว

ในระยะแรก การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาใช้เส้นทางด้านเหนือจากดินแดนทิเบต แต่เส้นทางนี้ได้ปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1950 หลังจากประเทศจีนเข้ายึดครองทิเบต

  • ในปี ค.ศ. 1951 คณะเดินทางจากอังกฤษจึงเข้าสู่ประเทศเนปาลเพื่อสำรวจเส้นทางปีนเขาเส้นใหม่ที่อยู่ด้านใต้ของเทือกเขา
  • ในปี ค.ศ. 1952 คณะเดินทางจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พยายามขึ้นสู่ยอดเขาจากทางด้านใต้ โดยอาศัยข้อมูลของคณะเดินทางจากอังกฤษ ซึ่งทีมของ เรย์มอนด์ แลมเบิร์ต และ เตนจิง นอร์เก เกือบจะขึ้นสู่ยอดเขาได้ แต่ต้องถอยกลับเสียก่อนขณะที่เหลือระยะทางอีก 200 เมตรเท่านั้น ในฤดูใบไม้ร่วงปีเดียวกัน คณะเดินทางจากสวิสได้พยายามอีกครั้ง แต่ก็ไต่ได้ในระดับที่ต่ำกว่าเดิม
  • ในปี ค.ศ. 1953 คณะเดินทางจากอังกฤษนำทีมโดย จอห์น ฮันต์ ได้กลับมาที่ประเทศเนปาล และพยายามขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์อีกครั้ง เมื่อคณะเดินทางไต่ขึ้นใกล้ยอดเขา จอห์น ฮันต์ ได้เลือกนักปีนเขาหนึ่งคู่ให้ไต่ขึ้นไปสู่ยอดเขา แต่นักปีนเขาคู่นี้อ่อนแรงเสียก่อน และไม่สามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาได้ ในวันถัดมา จอห์น ฮันต์ เลือกนักปีนเขาอีกคู่หนึ่งคือ เอดมันด์ ฮิลลารี จากนิวซีแลนด์ และ เตนจิง นอร์เก ชาวเชอร์ปาร์ นักปีนเขาคู่นี้เองที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ลงได้เป็นครั้งแรก เมื่อเวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 ที่ยอดเขาทั้งสองได้หยุดพักถ่ายรูป รวมทั้งฝังลูกอมและไม้กางเขนเล็ก ๆ ไว้ในหิมะก่อนจะเดินทางกลับ

ข่าวความสำเร็จของคณะเดินทางไปถึงลอนดอน ในเช้าวันที่สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่สองขึ้นครองราชย์ และหลังจากที่ เอ็ดมันด์ ฮิลลารี และ จอห์น ฮันต์ กลับมายังกาฐมัณฑุ ทั้งสองก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน เพื่อเป็นเกียรติแก่ความพยายามและความสำเร็จในครั้งนี้

แม้ยอดเขาเอเวอเรสต์จะถูกพิชิตลงได้อย่างเป็นทางการ แต่มนต์ขลังของยอดเขาแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะหมดไป นักปีนเขาทั้งหลายทั่วทุกสารทิศจากทุกมุมโลกต่างก็อยากพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ให้ได้ซักครั้งในชีวิต นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 เป็นต้นมา ความพยายามในการขึ้นไปสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ครั้งสำคัญๆ มีดังนี้

  • ในปี ค.ศ. 1960 วันที่ 25 พฤษภาคม นักปีนเขาชาวจีนสามารถขึ้นถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ได้โดยใช้เส้นทางด้านเหนือ
  • ในปี ค.ศ. 1965 วันที่ 20 พฤษภาคม นาวาง กมบุ ชาวเชอร์ปา เป็นคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สองครั้ง
  • ในปี ค.ศ. 1975 วันที่ 16 พฤษภาคม จุนโกะ ตาเบอิ ชาวญี่ปุ่น เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้สัมผัสยอดเขาเอเวอเรสต์
  • ในปี ค.ศ. 1978 รายโฮลด์ เมสเนอร์ ชาวอิตาลี และ ปีเตอร์ ฮาบเลอร์ ชาวออสเตรีย เป็นสองคนแรกที่ขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้โดยไม่ใช้ถังออกซิเจน
  • ในฤดูกาลปีนเขาปี ค.ศ. 1996 มีผู้เสียชีวิตจากการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ทั้งหมด 15 คน นับว่าเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตจากการปีนเขามากที่สุด โดยในวันที่ 10 พฤษภาคม ได้เกิดพายุขึ้นและคร่าชีวิตนักปีนเขาไปทั้งหมด 8 คน ในจำนวนนี้รวมถึง ร็อบ ฮอลล์ และ สก็อต ฟิชเชอร์ สองนักปีนเขาผู้มากประสบการณ์ผู้ถูกจ้างให้นำทางคณะสำรวจ อย่างไรก็ตาม สองผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ จอน คราเคอร์ และ เบค เวเธอร์ส ได้กลับมาเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์เฉียดตายในครั้งนั้น โดย จอน คราเคอร์ เขียนหนังสือ Into Thin Air และกลายเป็นหนังสือขายดีในเวลาต่อมา ส่วน เบค เวเธอร์ส ออกหนังสือชื่อ Left for dead

ในปีเดียวกันนั้นเองที่ เดวิด เบรเชียร์ส นักปีนเขาและนักถ่ายทำภาพยนตร์ ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ไอแมกซ์ที่ยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยคณะถ่ายทำของเบรเชียร์สอยู่ที่นั่นหลายสัปดาห์และมีโอกาสพบผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ 10 พฤษภา นอกจากนี้ คณะของเบรเชียร์สยังมี จัมลิง เตนจิง นอร์เกย์ ซึ่งเป็นลูกชายของ เตนจิง นอร์เกย์ และสามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้พร้อมคณะของเบรเชียร์ส เจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ

  • ในปี ค.ศ. 2001 วันที่ 25 พฤษภาคม เอริก ไวเฮนเมเยอร์ ชาวสหรัฐ เป็นคนตาบอดคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้

เมื่อจบฤดูกาลปีนเขาปี ค.ศ. 2001 มีผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้แล้วทั้งหมด 1491 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการปีนเขาทั้งหมด 172 คน กล่าวได้ว่าที่ยอดเขาเอเวอเรสต์แห่งนี้เป็นที่ที่มีทั้งชีวิตและความตาย ความสำเร็จและความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ยอดเขาเอเวอเรสต์ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่ท้าทายนักปีนเขาต่อไป

[แก้] ดูเพิ่ม

Commons
คอมมอนส์ มีรูปภาพและสื่อในรูปแบบอื่นๆ เกี่ยวกับ:
Our "Network":

Project Gutenberg
https://gutenberg.classicistranieri.com

Encyclopaedia Britannica 1911
https://encyclopaediabritannica.classicistranieri.com

Librivox Audiobooks
https://librivox.classicistranieri.com

Linux Distributions
https://old.classicistranieri.com

Magnatune (MP3 Music)
https://magnatune.classicistranieri.com

Static Wikipedia (June 2008)
https://wikipedia.classicistranieri.com

Static Wikipedia (March 2008)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com/mar2008/

Static Wikipedia (2007)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com

Static Wikipedia (2006)
https://wikipedia2006.classicistranieri.com

Liber Liber
https://liberliber.classicistranieri.com

ZIM Files for Kiwix
https://zim.classicistranieri.com


Other Websites:

Bach - Goldberg Variations
https://www.goldbergvariations.org

Lazarillo de Tormes
https://www.lazarillodetormes.org

Madame Bovary
https://www.madamebovary.org

Il Fu Mattia Pascal
https://www.mattiapascal.it

The Voice in the Desert
https://www.thevoiceinthedesert.org

Confessione d'un amore fascista
https://www.amorefascista.it

Malinverno
https://www.malinverno.org

Debito formativo
https://www.debitoformativo.it

Adina Spire
https://www.adinaspire.com