วัดเส้าหลิน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- เส้าหลิน ในบทความนี้คือ วัดเส้าหลินในประเทศจีน สำหรับที่เป็นการ์ตูนและความหมายอื่นดูที่ เส้าหลิน (แก้ความกำกวม)
วัดเส้าหลิน หรือ เสี้ยวลิ้มยี่ (จีน: 少林寺; พินอิน: Shàolínsì; ความหมาย "วัดป่าเยาว์", อังกฤษ: Shoalin Temple) เป็นวัดพุทธนิกายมหายานในประเทศจีนที่มีอยู่จริง มีชื่อเสียงอย่างมากเนื่องจากปรากฏในนิยายกำลังภายในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน ในอำเภอเติงเฟิง (Dengfeng) เมืองซานซี มณฑลเหอหนาน
[แก้] ประวัติ
วัดเส้าหลินก่อตั้งในค.ศ. 495 ในช่วงราชวงศ์เว่ย รัชสมัยของพระเจ้าเสี้ยวเหวินตี้ (孝文帝) เพื่อให้พระภิกษุจากอินเดีย นาม ป๋าถัว (跋陀) มาพำนักและเผยแผ่พุทธศาสนา ในขณะนั้นพระอาจารย์ป๋าถัวมีศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังจากพระอาจารย์ป๋าถัวมรณภาพ ความเจริญของวัดเส้าหลินก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลง วัดเส้นหลินมีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้ง เมื่อปรมาจารย์ตั๊กม้อหรือ พระโพธิธรรมเถระ ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวอินเดีย ได้จาริกมาเพื่อเผยแผ่หลักธรรมพุทธศาสนานิกายธฺยานะ (เซน)ในประเทศจีน ตรงกับรัชกาลพระเจ้าเหลียงบู้ตี้ (ประมาณ พ.ศ. 1070) ตามประวัติเล่าว่า หลังจากเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิแล้ว พระองค์ไม่ทรงเข้าพระทัยในคำสอนของพระโพธิธรรม พระโพธิธรรมจึงได้เดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีด้วยต้นอ้อลำเดียว ขึ้นเขาซงซานมายังวัดเส้าหลินและนั่งสมาธิในถ้ำหันหน้าเข้าฝาผนังอยู่ 9 ปีเต็ม ก่อนจะถ่ายถอดธรรมะให้แก่ศิษย์คือท่านฮุ่ยเข่อเพื่อสืบทอดเป็นพระสังฆปริณายกองค์ต่อไป
เชื่อกันว่าวิทยายุทธ์ของเส้าหลินสืบทอดมาจากปรมาจารย์ตั๊กม้อ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ท่านเห็นว่าพระภิกษุจะต้องนั่งสมาธินานๆ โดยไม่ได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมทรุดได้ ดังนั้นท่านจึงอาศัยพินิจการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ มาดัดแปลงกำหนดเป็นท่าทางเพื่อการออกกำลังกายและใช้ป้องกันตัว วิทยายุทธ์อันล้ำลึกเหล่านี้ทำให้พระวัดเส้าหลินต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องทางโลกในประวัติศาสตร์จีนหลายครั้ง เช่น ช่วงต้นศตวรรษที่ 7 ในยุคสุย-ถัง พระวัดเส้าหลินได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลี่ซื่อหมิน เพื่อต่อสู้กับหวังซื่อชง และต่อมาเมื่อหลี่ซื่อหมินได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง พระสงฆ์ 13 รูปจึงได้รับเกียรติคุณให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก และวัดเส้าหลินก็ได้รับการอุปถัมภ์จากพระจักรพรรดิ ต่อมาในยุคของพระนางบูเช็กเทียน (武则天) ได้มีการสนับสนุนการเผยแผ่ศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก วัดเส้าหลินก็กลายเป็นวัดอันดับหนึ่งในใต้หล้า (天下第一名刹)ไปโดยปริยาย
หลังจากประเทศจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ วัดเส้าหลินก็ถึงยุคตกต่ำถึงขีดสุด เมื่อปี ค.ศ.1927 ในช่วงที่จีนกำลังวุ่นวายกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของเหล่าขุนศึก วัดเส้าหลินก็ถูกเผาทำลายครั้งใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกโชนอยู่นานถึง 45 วัน สิ่งก่อสร้างในวัดเส้าหลินเกือบทั้งหมดถูกทำลายในกองเพลิง วิหาร ศาลา ตึกหลัก ๆ ได้ถูกเผาทั้งหมด ส่วนคัมภีร์วรยุทธ์ รวมถึงตำราและสมบัติล้ำค่าของวัดมากมาย ก็สูญหายไปในเพลิงอัคคีครั้งนั้น ปัจจุบันวัดเส้าหลินได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
[แก้] วิชาฝีมือ
- 18 ฝ่ามืออรหันต์
- พลังเคลื่อนย้ายลมปราณ
วัดเส้าหลิน เป็นบทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |