Ebooks, Audobooks and Classical Music from Liber Liber
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z





Web - Amazon

We provide Linux to the World


We support WINRAR [What is this] - [Download .exe file(s) for Windows]

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
SITEMAP
Audiobooks by Valerio Di Stefano: Single Download - Complete Download [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Alphabetical Download  [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Download Instructions

Make a donation: IBAN: IT36M0708677020000000008016 - BIC/SWIFT:  ICRAITRRU60 - VALERIO DI STEFANO or
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษา - วิกิพีเดีย

การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การจัดอันดับสถานศึกษา การจัดอันดับ (ranking) หรือการให้คะแนน (rating) หลักสูตรหรือสถานศึกษานั้น มีขึ้นเพื่อเป็นชี้ถึงจุดเด่นจุดด้อยของสถานศึกษาในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพการศึกษา คุณภาพงานวิจัย การยอมรับของผู้จ้างงาน งบประมาณการศึกษา เครือข่ายศิษย์เก่า ความเป็นนานาชาติ สัดส่วนนักศึกษาต่อผับในเมือง จำนวนผู้ได้รับรางวัลโนเบล ฯลฯ

การจัดอันดับของแต่ละสำนักนั้น จะให้น้ำหนักความสำคัญกับแต่ละตัวชี้วัดแตกต่างกันไปตามประเภทและวัตถุประสงค์ของการจัดอันดับ เช่น โดยทั่วไป ในการจัดอันดับหลักสูตรบริหารธุรกิจ (MBA) จะให้ความสำคัญกับเครือข่ายศิษย์เก่า มากกว่าในการจัดอันดับสถาบันเทคโนโลยี หรือ ในการจัดดับหลักสูตรระดับปริญญาตรี จะให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างศึกษา มากกว่าในการจัดอันดับหลักสูตรระดับปริญญาโทหรือเอก

ตัวชี้วัดที่นำมาใช้ในการจัดอันดับนั้นสามารถแบ่งได้สองประเภทใหญ่คือ แบบอัตวิสัย (subjective) และแบบภววิสัย (objective) โดยแบบแรกนั้นเป็นลักษณะความคิดเห็น เช่น ชื่อเสียงวิชาการในหมู่เพื่อนร่วมอาชีพ ความพอใจของผู้จ้างงาน ส่วนแบบหลังนั้นเป็นข้อมูลที่วัดได้โดยตรง เช่น ขนาดแบนด์วิธอินเทอร์เน็ต จำนวนนักศึกษาต่ออาจารย์

ข้อมูลที่นำมาคำนวณหรือประมวลเป็นตัวชี้วัดนั้น ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายประเภท เช่น ทำการสำรวจ ค้นหาจากสิ่งตีพิมพ์/เว็บไซต์ หรือสอบถามโดยตรงกับสถานศึกษาหรือหน่วยงานรับผิดชอบของแต่ละประเทศ โดยแหล่งข้อมูลแต่ประเภทก็จะใช้แรงงาน เวลา และค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน รวมถึงมีความครอบคลุมและความน่าเชื่อถือต่างกันไป และแหล่งข้อมูลบางประเภทอาจเหมาะกับตัวชี้วัดชนิดหนึ่งแต่ไม่เหมาะกับตัวชี้วัดอีกชนิดหนึ่ง เหล่านี้เป็นปัจจัยในการเลือกใช้แหล่งข้อมูลของสำนักจัดอันดับ และยังเป็นตัวชี้ว่า ผลการจัดอันดับนั้นน่าเชื่อถือเพียงใด

การให้ความสำคัญของอันดับสถานศึกษานั้นแตกต่างกันไปตามประเทศ โดยในสหราชอาณาจักร หนังสือพิมพ์หลายฉบับมีการจัดอันดับสถานศึกษา โดยเฉพาะในระดับปริญญาตรี มีการพิมพ์เป็นคู่มือจำนวนหลายร้อยหน้าทุก ๆ ปี ส่วนในระดับบัณฑิตศึกษา มีหน่วยงานรับผิดชอบของรัฐโดยเฉพาะในการให้คะแนนสถาบันอุดมศึกษาในด้านคุณภาพการศึกษาและคุณภาพการวิจัย ส่วนในสหรัฐอเมริกา อันดับสถานศึกษาส่งผลต่อการเลือกเข้าเรียนของนักเรียน ในขณะที่ในบางประเทศไม่มีการจัดอันดับสถานศึกษา

ในประเทศไทย ได้ริเริ่มให้ 2 หน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย คือ หน่วยงานสมศ. (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา-องค์การมหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ในการประเมินตนเองและประกันคุณภาพ และ หน่วยงาน สกอ. (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา)เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับนักเรียนที่จะใช้ในการเลือกสอบเข้าเรียนในสถาบันต่างๆ

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มีการประเมินสถานศึกษาทั่วประเทศ ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และจะเริ่มคะแนนสถาบันอุดมศึกษาในปีการศึกษา 2549 โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2549 การประเมินภายนอกรอบแรก (รอบ พ.ศ. 2544 - 2548) ของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศได้เสร็จสิ้นแล้ว[1]

สารบัญ

[แก้] อันดับโดย Times Higher Education Supplement

หนังสือพิมพ์ไทมส์ไฮเออร์เอดูเคชันซัปพลีเมนต์ (Times Higher Education Supplement) จากสหราชอาณาจักร จัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก 200 อันดับ ทั้งแบบโดยภาพรวมและแบบแบ่งตามสาขาวิชา[2] มีตัวชี้วัดดังต่อไปนี้[3] (ในวงเล็บคือสัดส่วนในการคิดคะแนนรวม):

  • คะแนนความเห็นจากเพื่อนร่วมอาชีพ (40%) - ถามความเห็นจากอาจารย์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง 2,375 คน
  • คะแนนความเห็นผู้จ้างงาน (เริ่มใช้ใน ค.ศ. 2005) (10%) - ถามความเห็นจากผู้จ้างงาน 333 แห่ง
  • สัดส่วนอาจารย์นานาชาติ (5%)
  • สัดส่วนนักศึกษานานาชาติ (5%)
  • สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา (20%)
  • คะแนนงานวิจัยของอาจารย์ที่ถูกอ้างอิง/ความสำคัญในสาขา (20%)

[แก้] อันดับโดยมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง

The Academic Ranking of World Universities โดย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง ของประเทศจีน เป็นการจัดอันดับที่มักจะได้รับการกล่าวถึงควบคู่ไปกับการจัดอันดับของ THES และได้รับการอ้างอิงในบทความของนิตยสาร The Economist หลายครั้ง[4] ได้เริ่มจัดอันดับมาได้เพียง 2 ครั้ง คือ ปี ค.ศ. 2004 และ ค.ศ. 2005 และมีการปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดและอัตราส่วน ทำให้แต่ละครั้งมีตัวชี้วัดไม่เหมือนกัน โดยให้น้ำหนักไปที่งานวิจัยและศักยภาพทางวิชาการที่สามารถวัดได้ (ภววิสัย) โดยเกณฑ์ล่าสุดนั้น ให้คะแนนด้านวิชาการ 4 ด้าน (เพิ่มศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์เข้าไป จากเดิมมีแค่ด้านวิทยาศาสตร์อย่างเดียว) ด้านละ 20%, ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ 10%, และอัตราส่วนผลงานวิจัยต่อจำนวนอาจารย์ประจำ 10%

หากพิจารณาถึงความสามารถด้านวิชาการโดยรวมของทุกสาขาวิชา การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของสำนักนี้ เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นการจัดอันดับคุณภาพเชิงปริมาณโดยรวมทุกสาขาวิชา โดยจัดอันดับแยกเป็นหมวดตามภูมิภาคดังนี้

  • ระดับโลก 500 แห่ง (Top 500 World Universities)
  • ระดับภูมิภาค ภูมิภาคละ 100 แห่ง
    • อเมริกาเหนือและละตินอเมริกา (Top 100 North & Latin American Universities)
    • ยุโรป (Top 100 European Universities)
    • เอเชียแปซิฟิก (Top 100 Asia Pacific Universities)

[แก้] อันดับโดย Webometrics

ตัวชี้วัด Webometrics นั้นจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก อันดับ Webometrics จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน

ผู้ทำการจัดอันดับ Webometrics นั้น ได้ระบุในหน้าแรกของเว็บไซต์ว่า ไม่ได้ต้องการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาหรือชื่อเสียงทางวิชาการ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้อันดับนี้ในการเปรียบเทียบสถานศึกษา หรือใช้ในการตัดสินใจเข้าศึกษา[5]

[แก้] อันดับโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการเรียนการสอน และด้านวิจัย โดยอาศัยตัวชี้วัด[6] ดังต่อไปนี้

[แก้] ตัวบ่งชี้ด้านการเรียนการสอน (Teaching Ranking Indicator, TRI)

  • Student ratio (20%) คำนวณจาก
    • จำนวนนักศึกษาทุกระดับ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
  • Faculty resources (20%) คำนวณจาก
    • จำนวนอาจารย์วุฒิปริญญาเอก ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • จำนวนศาสตราจารย์ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • จำนวนรางวัลระดับชาติและนานาชาติ*
    • จำนวนอาจารย์ทั้งหมด ต่อ จำนวนหลักสูตรทั้งหมด
  • Financial resources (20%) คำนวณจาก
    • งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด+เงินรายได้จากการจัดการเรียนการสอนนอกเวลา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด+เงินรายได้จากการจัดการเรียนการสอนนอกเวลา ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
    • งบห้องสมุด ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
    • ขนาดของ bandwidth ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
  • Internationality (10%) คำนวณจาก
    • จำนวนนักศึกษาต่างชาติ ต่อนักศึกษาทั้งหมด
    • จำนวนอาจารย์ต่างชาติ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
  • Quality of Education (10%) คำนวณจาก
    • ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลระดับชาติ/นานาชาติ
    • นักศึกษาปัจจุบันที่ได้รับรางวัลระดับชาติ/นานาชาติ

[แก้] ตัวบ่งชี้ด้านการวิจัย (Research Ranking Indicator, RRI)

  • ด้านแหล่งทุน (20%) คำนวณจาก
    • เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย+เงินวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
    • เงินวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกทั้งในและต่างประเทศ ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
    • เงินวิจัยจากอุตสาหกรรม, กระทรวง, จังหวัด ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
  • ด้านบุคคลากร (20%) คำนวณจาก
    • จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) วุฒิปริญญาเอก ต่อ จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ทั้งหมด
    • จำนวนศาสตราจารย์ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • จำนวนรางวัลระดับชาติและนานาชาติ*
    • จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ที่เป็นสมาชิกคณะบรรณาธิการ ของวารสารฐานข้อมูลสากล
  • ด้านผลงาน คิดเป็น (45%) คำนวณจาก
    • จำนวนสิทธิบัตรในประเทศ
    • จำนวนสิทธิบัตรในต่างประเทศ
    • จำนวนบทความในฐานข้อมูลสากล ต่อ จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ทั้งหมด
    • เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย+เงินทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก ต่อ จำนวนบทความทั้งหมด
    • จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI ที่ (อาจารย์+นักวิจัย) เป็นผู้วิจัยหลัก ต่อ จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI
    • จำนวนครั้งที่บทความในฐานข้อมูล ISI ได้รับการอ้างอิง ต่อ จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI (ย้อนหลัง 5 ปี)
    • จำนวนหนังสือหรือตำราที่เขียนเป็นภาษาต่างประเทศที่ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์
  • ด้านบัณฑิตศึกษา (15%) คำนวณจาก
    • จำนวนนักศึกษา ป. เอกที่รับเข้าศึกษา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • จำนวนบัณฑิต ป. เอกที่จบการศึกษา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
    • จำนวนนักศึกษา ป. เอก ที่ได้รับทุน คปก. หรือเทียบเท่า ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] อ้างอิง

  1. สถานภาพการประเมินสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ข้อมูลเดือน มีนาคม 2549 สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
  2. อันดับมหาวิทยาลัยจาก หนังสือพิมพ์ไทมส์ไฮเออร์เดดูเคชันซัปพลีเมนต์ (ต้องสมัครสมาชิก)
  3. อธิบายตัวชี้วัดของ THES World University Rankings 2005 พร้อมข้อสังเกต โดยฝ่ายวางแผน มหาวิทยาลัยเอดินบะระ
  4. http://www.economist.com/displaystory.cfm?story_id=4339960
  5. http://www.webometrics.info/ เรียกดู 25 พ.ค. 2549
  6. การวัดศักยภาพสถาบันอุดมศึกษาไทย ประจำปี 2548 โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

[แก้] ลิงก์ภายนอก

Our "Network":

Project Gutenberg
https://gutenberg.classicistranieri.com

Encyclopaedia Britannica 1911
https://encyclopaediabritannica.classicistranieri.com

Librivox Audiobooks
https://librivox.classicistranieri.com

Linux Distributions
https://old.classicistranieri.com

Magnatune (MP3 Music)
https://magnatune.classicistranieri.com

Static Wikipedia (June 2008)
https://wikipedia.classicistranieri.com

Static Wikipedia (March 2008)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com/mar2008/

Static Wikipedia (2007)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com

Static Wikipedia (2006)
https://wikipedia2006.classicistranieri.com

Liber Liber
https://liberliber.classicistranieri.com

ZIM Files for Kiwix
https://zim.classicistranieri.com


Other Websites:

Bach - Goldberg Variations
https://www.goldbergvariations.org

Lazarillo de Tormes
https://www.lazarillodetormes.org

Madame Bovary
https://www.madamebovary.org

Il Fu Mattia Pascal
https://www.mattiapascal.it

The Voice in the Desert
https://www.thevoiceinthedesert.org

Confessione d'un amore fascista
https://www.amorefascista.it

Malinverno
https://www.malinverno.org

Debito formativo
https://www.debitoformativo.it

Adina Spire
https://www.adinaspire.com