Ebooks, Audobooks and Classical Music from Liber Liber
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z





Web - Amazon

We provide Linux to the World


We support WINRAR [What is this] - [Download .exe file(s) for Windows]

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
SITEMAP
Audiobooks by Valerio Di Stefano: Single Download - Complete Download [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Alphabetical Download  [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Download Instructions

Make a donation: IBAN: IT36M0708677020000000008016 - BIC/SWIFT:  ICRAITRRU60 - VALERIO DI STEFANO or
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
CSI: Crime Scene Investigation - วิกิพีเดีย

CSI: Crime Scene Investigation

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ความหมายอื่นของ CSI ดูได้ที่ CSI
บทความนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากยังไม่มีชื่อภาษาไทยที่กระชับหรือเหมาะสม ไม่รู้วิธีอ่านในภาษาไทย หรือต้องการคงชื่อเฉพาะไว้ตามต้นฉบับ
ทีมนักแสดงนำของ CSI
ทีมนักแสดงนำของ CSI

CSI: Crime Scene Investigation หรือ CSI (ในประเทศไทย ซีรี่ส์ชุดนี้ถูกเรียกว่า ทีมงานตามล่าความจริง ตามที่ออกฉายในช่อง AXN ของ UBC และถูกเรียกว่า ไขคดีปริศนา ตามที่ออกเป็นสื่อบันเทิงตามบ้าน ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท ST Entertainment จำกัด) คือชื่อของรายการซีรี่ส์ออกฉายทางโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการทำงานของตำรวจที่เป็นที่นิยม (ในสหรัฐอเมริกา) ที่ผลิตโดยช่อง CBS ร่วมกับบริษัทกิจการบันเทิง Alliance Atlantis, ออกฉาย (ในสหรัฐฯ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) เป็นต้นมา, รายการนี้มีศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ทีมนักนิติเวชวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลาสเวกัส, มลรัฐเนวาดา ในช่วงเวลาปัจจุบัน (เหตุผลที่เลือกเมืองนี้ไม่ได้เลือกเพื่อการแสดงเท่านั้น แต่เพราะว่าห้องทดลองอาชญากรรมของกรมตำรวจแห่งนครลาสเวกัส ยังมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเป็นที่สองในสหรัฐฯ อีกด้วย จะเป็นรองก็แต่ห้องทดลองของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา - FBI ในเมืองควอนทิโค, มลรัฐเวอร์จิเนียเท่านั้น)

หน่วยนี้จะสืบสวนสอบสวนการเสียชีวิตที่เป็นปริศนา ผิดธรรมดา และบางครั้งก็น่าสยดสยอง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและความเป็นมาของผู้ที่เสียชีวิต พวกเขายังสอบสวนอาชญกรรมร้ายแรงอื่น ๆ ด้วย แต่แกนสำคัญส่วนใหญ่ของเรื่องมักจะเป็นการฆาตกรรม

สารบัญ

[แก้] ความเป็นมาของรายการ

เดิมรายการนี้ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ ABC ซึ่งในขณะนั้น ABC คือเครือข่ายยอดนิยมอันดับสองในสหรัฐอเมริกา, ตามหลังอยู่แค่สถานี NBC เท่านั้น ในขณะที่ความนิยมของ CBS ในขณะนั้นเริ่มเสื่อมถอยลงจนยากที่จะขึ้นมาอีกครั้ง อย่างไรก็เมื่อนักวิจารณ์ของ ABC ยกเลิกรายการนี้ในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) เนื่องจากเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปซึ่งไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายวัยกลางคน CBS ซื้อรายการนี้อย่างรวดเร็วแล้วนำมันออกฉายในช่วงหัวค่ำของวันศุกร์ ทำให้ทั้งเรตติ้งรายการและเรตติ้งของสถานีพุ่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด - CSI มีผู้ชมรายการโดยเฉลี่ยสำหรับตอนใหม่ถึง 25 ล้านคน และผู้ชมรายการโดยเฉลี่ยสำหรับตอนเก่าถึง 15 ล้านคน และทำให้เรตติ้งของ ABC ตกลงอย่างมากถึงขนาดต้องแข่งกับสถานี Fox เพื่อชิงที่สามมา

ต่อมารายการนี้ถูกย้ายไปยังวันพฤหัสบดีในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) เพื่อแย่งผู้ชมของ NBC มา - ซึ่งฉายแต่ซี่รี่ส์ชื่อดังซึ่งรวมไปถึง Friends, Will & Grace, และ ER CSI นั้นยังคงมีผู้ชมเท่าเดิมในช่วงเวลาใหม่ และเมื่อซี่รี่ส์สุดฮิต Friends จบไปในปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) เรตติ้งของ CSI ยังมั่นคงและเพิ่มขึ้นเรื่อย สร้างแรงกดดันให้กับรายการใหม่ในวันพฤหัสฯ ของ NBC

ลิขสิทธิ์การฉายตอนเก่าของ CSI ถูกขายให้กับเครือข่ายเคเบิ้ล Spike TV ในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) ด้วยราคาค่าลิขสิทธิ์ถึง 1.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหนึ่งตอน แต่ในทันทีที่มันออกฉาย ตอนเก่าที่ออกฉายช่วงหัวค่ำของ CSI ก็กลายเป็นรายการยอดนิยมของสถานีในทันที

CSI ในบางครั้งยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ชุบชีวิตซี่รี่ส์แนวอาชญากรรมในอเมริกา, แม้ว่าจะมีรายการแนวนี้ฉายมาก่อน CSI อย่างเช่น Law & Order ซึ่งยังคงฉายอยู่ในช่วงที่ CSI เปิดตัว และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นซีรี่ส์ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนที่ CSI จะออกฉายครั้งเสียอีก CSI รวมถึงภาคเสริมของมัน CSI: Miami และ New York ล้วนได้รับคำชมว่าเป็นผู้ชุบชีวิตซี่รี่ส์ประเภทนี้ ซึ่งทำให้มีรายการจำนวนมากที่ออกฉายในแนวเดียวกัน หรือแม้แต่พยายามที่จะเลียนแบบ เช่น Crossing Jordan, Law and Order: Criminal Intent, Law and Order: Special Victims Unit, และ Medical Investigation CBS ยังพยายามที่จะเพิ่มความนิยมในซี่รี่ส์แนวนี้มากเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยการแนะนำรายการแนวเดียวกับ CSI ได้แก่ Cold Case และ Without A Trace

CSI โดดเด่นกว่าซีรี่ส์แนวเดียวกันกับมันทั้งหมด เนื่องจากการเน้นไปที่การค้นหาหลักฐานทางนิติเวชในกระบวนการการสืบสวนสอบสวนคดี โดยที่หลักฐานทางกายภาพนั้นจะถูกพิจารณาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเล็กเพียงใดหรือแม้แต่หลักฐานที่แทบจะมองไม่เห็นก็จะถูกขยายขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์, อย่างเช่นเศษด้ายหรือแม้แต่เกล็ดรังแคก็จะได้รับการวิเคราะห์

[แก้] ผู้สร้างและนักแสดงนำ

ผู้สร้าง: แอนโธนี อี. ซุยเคอร์ (Anthony E. Zuiker)

นักแสดงนำ

  • วิลเลียม ปีเตอร์เซน (William Petersen)
  • มาร์ก เฮลเกนแบเกอร์ (Marg Helgenberger)
  • จอร์จ เอียดส์ (George Eads)
  • แกรี เดอร์ดัน (Gary Dourdan)
  • เจอร์จา ฟอกส์ (Jorja Fox)
  • เอริค ซึสมานดา (Eric Szmanda)
  • โรเบิร์ต เดวิด ฮอลล์ (Robert David Hall)
  • ลูอิส ลอมบาร์ด (Louise Lombard)
  • พอล กิวฟอยล์ (Paul Guilfoyle)

หมายเหตุ: ผู้กำกับและผู้เขียนบทแตกต่างกันไปในแต่ละตอนของซีรีส์

[แก้] ตัวละครหลัก

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
  • กิลเบิร์ต (กิล) อาเธอร์ กริซซัม - Gilbert Arthur Grissom (แสดงโดย William Petersen) ผู้ดูแลทีมกะกลางคืนของหน่วย CSI ลาส เวกัส, และเป็นนักกีฏนิติเวชวิทยา สำเร็จการศึกษาวุฒิปริญญาตรี สาขาวิชาชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย เมืองลอสแอนเจลลิส (Los Angeles) หรือ UCLA ถูกลูกน้องตั้งชื่อให้เล่น ๆ ว่า "มนุษย์แมลง (The Bug Man)" กริซซัมสามารถใช้ภาษามือได้ และสืบทอดโรคติดต่อทางพันธุกรรมมาจากแม่ของเขาคือโรคกระดูกโกลนงอกผิดปกติหรือ โอโตสเคลโรซิส (Otosclerosis), โรคที่ทำให้หูของเขาค่อยๆ หนวกลงอย่างช้า ๆ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของเรื่องตลอดซีซันที่ 3 ของรายการ เพื่อที่โรคจะได้รับการรักษา เขาจะต้องเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติของกระดูกโกลนที่เกิดขึ้น (รวมถึงการฟื้นฟูสภาพ) ซึ่งเขาเข้าผ่าตัดและฟื้นฟูระหว่างซีซันที่ 3 ถึงซีซันที่ 4 ของรายการ (เพียงแค่กล่าวถึง) งานอดิเรกและงานครึ่งเวลากลาย ๆ ของเขาก็คือการเข้าแข่งขันการจับแมลงสาบวิ่งแข่ง, การอ่านหนังสือ, และการนั่งรถไฟเหาะ ทีมของเขามีเจ้าหน้าที่หลัก ๆ อยู่สี่คน, และทีมช่างเทคนิคสนับสนุน ในช่วงสี่ซีซันแรก, ทีมของเขาประกอบไปด้วย แคทเธอรีน วิลโลวส์, นิค สโตคส์, วอร์ริค บราวน์ และซาร่าห์ ไซเดิล แต่การโยกย้ายบุคลากรกลางซีซันที่ห้า, ทำให้ทีมของเขาในขณะนี้ ประกอบไปด้วยซาร่าห์ ไซเดิล, เกร็ก แซนเดอร์ส และ โซเฟีย เคอร์ติส
  • แคทเธอรีน วิลโลวส์ - Catherine Willows (แสดงโดย Marg Helgenberger) รองผู้ดูแลทีมกะกลางคืนในช่วงสี่ซีซันแรก, เธอจะเป็นผู้ดูแลแทนกริซซัมในกรณีที่เขาไม่อยู่ ปัจจุบันเธอถูกย้ายให้ไปเป็นผู้ดูแลของทีมใหม่ในช่วงกะกลางวัน แคทเธอรียเป็นนักวิเคราะห์หยดเลือดจากเมืองโบซแมน (Bozeman), มลรัฐมอนทาน่า, เธอเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้าในช่วงแรก ๆ ของชีวิตการทำงานของเธอ, เพื่อนำเงินที่ได้ไปจ่ายเป็นทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งเนวาดา เมืองลาส เวกัส หรือ UNLV ที่ ๆ เธอสำเร็จการศึกษาสาขาวิชาวิทยาการทางการแพทย์ เธอมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน, ลินด์ซีย์ (Lindsey) น่าเศร้าหลังจากเหตุฆาตกรรมสามีเก่าของเธอ เธอไม่สามารถที่จะหาหลักฐานใด ๆ ในการเอาผิดฆาตกรได้ ในตอนหนึ่งของรายการ (ชื่อว่า "Inside The Box") แคทเธอรีนพบว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือเจ้าของกาสิโนและผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมแซม บรอน (Sam Braun)
  • ซาร่าห์ ไซเดิล - Sarah Sidle (แสดงโดย Jorja Fox) เธอคือนักวิเคราะห์หลักฐานวัตถุและธาตุ สำเร็จการศึกษา เอกสาขาวิชาฟิสิกส์จาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ซาร่าห์เคยเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพและเคยทำงานในห้องทดลองอาชญากรรมในเมืองซาน ฟรานซิสโกมาก่อน เธอถูกเกณฑ์เข้ามาทำงานในหน่วยนี้โดยกริซซัม, ชายที่เธอเห็นว่าเป็นมากกว่าแค่เจ้านาย ในบางครั้งซาร่าห์ทำให้งานที่เธอได้รับเป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป, โดยเฉพาะถ้าเหยื่อนั้น เป็นผู้หญิง เธอโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีแต่ปัญหาและความรุนแรง, และภายหลังต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า หลังจากพ่อของเธอถูกฆ่าโดยแม่ของเธอเอง รายละเอียดของอดีตอันเลวร้ายของเธอถูกเปิดเผยขึ้นมาทั้งหมดในช่วงหลังของซีซันที่สี่ ซึ่งมาพร้อมกับอาการติดสุราเรื้อรังของเธอ ซึ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพบว่าเธอหลบหนีการจับกุมข้อหาขับรถในขณะดื่มของมึนเมาโดยไม่ได้เจตนาเนื่องจากความมึนเมาของเธอเอง ในขณะที่เรื่องในซีซันที่ห้ากำลังดำเนินไป มีอาการที่เริ่มเห็นได้เด่นชัดว่าปัญหาติดเหล้าเรื้อรังของเธอยังไม่จบลง เห็นได้จากการขัดคำสั่งอยู่เป็นนิจ และการแสดงความก้าวร้าวต่อพยาน
  • วอร์ริค บราวน์ - Warrick Brown (แสดงโดย Gary Dourdan) เขาเป็นชาวเมืองลาส เวกัสและผู้สำเร็จการศึกษา เอกสาขาวิชาเคมี จาก UNLV, ทำงานเป็นนักวิเคราะห์หลักฐานภาพและเสียง เขาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักในซีซันแรก (มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในตอนแรกของรายการ) เนื่องจากเขามีปัญหาติดการพนัน ทำให้จุดหลักของเรื่องคือการพยายามเลิกการพนันของเขาที่เป็นไปอย่างช้า ๆ เขาอยู่ในทีมของกริซซัมในสี่ซีซันแรก แต่ถูกย้ายไปอยู่กับแคทเธอรีนในตอนกลางของซีซันที่ห้า
  • นิค สโตคส์ - Nick Stokes (แสดงโดย George Eads) เขาคืออดีตนักศึกษาสังกัดหอชมรม (Fraternity Brothers) นิสัย 'ยังไงก็ได้' ที่เป็นมิตรกับทุกคน พร้อมด้วยปริญญา สาขาวิชาความยุติธรรมทางอาญา, ทำงานเป็นนักวิเคราะห์เส้นไยและเส้นผมจากเมืองดัลลัส, มลรัฐเท็กซัส เมื่อเขาอายุ 9 ปี เขาถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยพี่เลี้ยงเด็กผู้หญิงที่พ่อแม่ของเขาหามาได้อย่างรีบร้อน เขาอยู่ในทีมของกริซซัมในสี่ซีซันแรก แต่ถูกย้ายให้ไปทำงานกับแคทเธอรีนในตอนกลางของซีซันที่ห้า
  • จิม แบรส - Jim Brass (แสดงโดย Paul Guilfoyle) อดีตหัวหน้าหน่วย CSI จนกระทั่งเขาถูกย้ายกลับไปยังแผนกสืบสวนฆาตกรรมในตอนแรกของรายการ ในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งผู้กองในแผนกสืบสวนฆาตกรรมและมักจะทำงานร่วมกับหน่วย CSI อยู่บ่อยๆ เขาหย่าร้างกับภรรยาหลังจากที่ให้กำเนิดและเลี้ยงลูกสาวคนเดียวจนโต เธอชื่อว่าเอลลี่ และปรากฎอยู่ในตอนหนึ่งของรายการ ซึ่งเปิดเผยเธอไม่ใช่ลูกของเขาตามกฎหมายอีกต่อไป
  • เกร็ก แซนเดอร์ส - Greg Sanders (แสดงโดย Eric Szmanda) เขาคือช่างเทคนิคหนุ่มผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเหมือนกับกริซซัม และได้เป็นเจ้าหน้าที่ CSI ระหว่างซีซันที่ห้า โดยอยู่ในทีมของกริซซัม
  • น.พ. อัล รอบบิ้นส์ - Al Robbins M.D. (แสดงโดย Robert David Hall) ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพ แต่งงานแล้วและให้กำเนิดลูกสามคน, บางครั้งเขาเข้าใจในสิ่งที่กริซซัมพูดในขณะที่คนอื่นไม่เข้าใจ เขาใส่ขาเทียมทั้งสองข้างและชอบเล่นดนตรีในวงร็อคเป็นงานอดิเรก

[แก้] ตัวละครเสริม

ตัวละครเสริมในรายการยังประกอบไปด้วยอาร์ชี่ จอห์นสัน (แสดงโดย Archie Kao), ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและคอมพิวเตอร์; ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพเดวิด ฟิลลิปส์ (แสดงโดย Devid Berman); อดีตผู้ดูแลกะกลางวันที่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้ควบคุมห้องทดลองอาชญากรรมคอนราด เอ็คลี่ (แสดงโดย Marc Vann) และเจ้าหน้าเทคนิคของห้องทดลองเดวิด ฮ็อดเจส (แสดงโดย Wallace Langham)

รายการนี้เป็นที่รู้จักดีในการใช้มุมกล้องสุดพิสดาร, การใช้อุปกรณ์อันทันสมัย, บทสนทนาที่เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ, และการแสดงกราฟฟิคของวิถีกระสุน, รูปแบบการกระจายของเลือด, ภาพความเสียหายของอวัยวะภายใน, และวิธีการกู้หลักฐานหลากหลายวิธี (ยกตัวอย่างเช่น ลายนิ้วมือจากด้านในของถุงมือลาเท็กซ์), รวมถึงการจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาใหม่

แม้ว่าในชีวิตจริงนักอาชญวิทยาเหล่านี้แทบไม่ได้ออกจากห้องทดลองนอกจากออกไปเก็บตัวอย่างภาคสนาม หรือ (ถ้าเคยก็น้อยครั้งมาก) สอบสวนผู้ต้องหา, แต่ CSI ก็แสดงให้เห็นส่วนเล็กๆ ในงานกิจการตำรวจของสหรัฐอเมริกา พร้อมยังแสดงตามงานจริงๆ ซึ่งการสอบสวนส่วนใหญ่ไม่ได้มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง, ซึ่งยอมเสี่ยงทำให้รายการอาจไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในด้านนิติเวชวิทยายังติด้านความสมจริงของรายการอยู่ อย่างเช่นผลวิเคราะห์ทางนิติเวชมักจะเร็วกว่าความเป็นจริงเพื่อพาผู้ชมไปสู่บทสรุปของตอนโดยเร็ว ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยที่มีราคาแพงมากในความเป็นจริง กรณีนี้สามารถยกตัวอย่างได้จากหลายๆ ตอนของรายการที่ตัวละครจะใช้โปรแกรมฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ (จำลอง) ในการสืบหลักฐาน เช่นลายนิ้วมือ โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที ในขณะที่การวิเคราะห์ลายนิ้วมือจริงๆ นั้นจะใช้เวลานาน และอาศัยความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เจ้าหน้าตำรวจสืบสวนสอบสวน (นักสืบ) ที่ดูรายการนี้ขอข้อมูลแบบในรายการกับผู้เชี่ยวชาญจริง ซึ่งในชีวิตจริงนั้นยังทำไม่ได้ ยังมีความกังวลจากข้าราชการตุลาการในสหรัฐฯ ด้วยว่าถ้าลูกขุนรับชมรายการนี้อยู่เป็นประจำอาจทำให้เกิดความเชื่อมั่นในหลักฐานทางนิติเวชที่ถูกนำเสนอในศาลมากเกินเหตุ ผลกระทบนี้ถูกเรียกเล่นๆ ว่า "ผลกระทบทาง CSI"

ลักษณะของรายการที่มีอุปกรณ์ล้ำยุคและการใช้อุปกรณ์จากเทคโนโลยีที่กำลังจะถูกสร้างในบางครั้งทำให้รายการนี้เป็นซี่รี่ส์แนววิทยาศาสตร์อนาคต (Future Sci-Fi) ได้อีกด้วยจึงทำให้มันได้รับรางวัล Saturn Award ประจำปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) สาขาซี่รี่ส์ทางโทรทัศน์แนววิทยาศาสตร์, แฟนตาซี, หรือสยองขวัญยอดเยี่ยม

รายการนี้ยังมีซี่รี่ย์ภาคเสริมของมันอีกด้วยคือ CSI: Miami ซึ่งเริ่มฉายในสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002); นำแสดงโดย David Caruso ภาคเสริมที่ถูกสร้างคือ CSI: NY, นำแสดงโดย Gary Sinise, ซึ่งออกฉายในสหรัฐฯ ครั้งแรกในช่วงกลางปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) ในขณะเดียวกัน, รายการที่มีโครงเรื่องคล้ายๆ กันก็ถูกสร้างและนำมาออกฉายในเครือข่ายสถานีของทั้ง CBS และ NBC ทั่วสหรัฐอเมริกา ได้แก่ NCIS (หรือ Navy NCIS), Crossing Jordan, และ Medical Investigation

ในช่วงซีซันระหว่างปี 46-47 (2003-2004) รายการนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา รายการนี้ยังได้รับคำชมว่ามีส่วนในการเพิ่มจำนวนนักศึกษาในสาขาวิชานิติเวชวิทยาศาสตร์เป็นจำนวนมากอีกด้วย ความนิยมในรายการถูกคาดการณ์ว่ามีส่วนมาจากการดำเนินเรื่องในการแก้ปัญหาต่างของผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ลดละ โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน เนื่องจากการดำเนินเรื่องของมันให้แรงบันดาลใจในการที่จะจัดการกับบรรดาอาชญากรทั้งหลาย, เพื่อแสวงหาความยุติธรรมไม่ว่าจะเสี่ยงแค่ไหน

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004), George Eads และ Jorja Fox ถูกไล่ออกโดย CBS โดยถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎในสัญญา โดยที่จอร์จมาทำงานสายเป็นชั่วโมงในวันถ่ายทำซีซันที่ห้าวันแรก, และจอร์จาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้คอบกลับจดหมายของ CBS ที่แจ้งเตือนให้เธอมาทำงานให้ตรงเวลายิ่งขึ้น ข้อพิพาธคลี่คลายลงภายในหนึ่งสัปดาห์, และทั้งสองก็ได้รับการว่าจ้างอีกครั้งโดย CBS

แม้ว่าเนื้อเรื่องของรายการนี้จะดำเนินไปในเมืองลาส เวกัส แต่การถ่ายทำเกิดขึ้นในเมืองซานตา คลาริต้า, มลรัฐแคลิฟอร์เนีย, ซึ่งฉากส่วนใหญ่ก็จะอยู่รอบเมืองซานตา คลาริต้า มีอยู่น้อยครั้งที่ทีมงานจะไปถ่ายทำในตัวเมืองลาส เวกัส ส่วนใหญ่เพื่อถ่ายฉากที่มีสิ่งก่อสร้างสำคัญของลาส เวกัสอยู่

[แก้] รางวัลที่ได้รับ

พ.ศ. 2548

  • รางวัล Screen Actors Guild Award - สาขาทีมนักแสดงละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยม
  • รางวัล People's Choice Award - สาขาละครโทรทัศน์ยอดนิยม
  • รางวัล People's Choice Award - สาขานักแสดงละครโทรทัศน์หญิงยอดนิยม - Marg Helgenberger


[แก้] เกร็ดน่ารู้

  • ผู้ที่ชมรายการนี้มักจะได้ยินตัวละครกล่าวถึงรหัส 419 (four-nineteen) หรือรหัส 445 รหัสเหล่านี้คือหนึ่งในรหัสเหตุการณ์ตำรวจนครลาส เวกัส หลัก 400 รหัส 419 หมายถึง 'พบบุคคลเสียชีวิต'; ในขณะที่รหัส 445 หมายถึง 'พบวัตถุระเบิดอันตราย'
  • Anthony E. Zuiker ผู้สร้างซีรีส์เลือกที่จะให้เมืองลาสเวกัสเป็นสถานที่ตั้งของทีม CSI ก็เนื่องจากแล็บอาชญากรรมของเมืองลาสเวกัสของจริงนั้นเป็นแล็บที่มีงานมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับสองรองมาจากแล็บ FBI ในเมืองควอนติโก มลรัฐเวอร์จิเนีย
  • ในซีซันที่ 2 ตอนที่ 23: ตอน The Hunger Artist - ชื่อตอนและโครงเรื่องบางส่วนของตอนนี้ถูกยืมมาจากเรื่องสั้น ประพันธ์โดย Frank Kafka ที่ชื่อว่า A Hunger Artist
  • ในซีซันที่ 5 ตอนที่ 8: ตอน Ch-Ch-Changes - ในเรื่องมีแพทย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ 'เพื่อสงเคราะห์คนไข้' มีชื่อว่า นพ. Carl Benway, นพ. Benway นั้นถูกพบบ่อย ๆ ในงานเขียนของ William S. Burroughs ในบทบาทของ "แพทย์ผู้ผิดจรรยาบรรณ"
  • ชื่อตอน Ch-Ch-Changes ยังเป็นชื่อเพลงที่สองของ Changes ที่ขับร้องโดย David Bowie ในอัลบั้ม Hunky Dory
  • เว็บไซต์ www.ladyheather.com ที่เคยถูกกล่าวถึงในตอนหนึ่งของ CSI เมื่อมีคนพยายามเข้าไปตามลิงค์นี้ ลิงค์จะเปลี่ยนทางไปยังเว็บไซต์รายการ CSI อย่างเป็นทางการโดยอัตโนมัติ

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

Our "Network":

Project Gutenberg
https://gutenberg.classicistranieri.com

Encyclopaedia Britannica 1911
https://encyclopaediabritannica.classicistranieri.com

Librivox Audiobooks
https://librivox.classicistranieri.com

Linux Distributions
https://old.classicistranieri.com

Magnatune (MP3 Music)
https://magnatune.classicistranieri.com

Static Wikipedia (June 2008)
https://wikipedia.classicistranieri.com

Static Wikipedia (March 2008)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com/mar2008/

Static Wikipedia (2007)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com

Static Wikipedia (2006)
https://wikipedia2006.classicistranieri.com

Liber Liber
https://liberliber.classicistranieri.com

ZIM Files for Kiwix
https://zim.classicistranieri.com


Other Websites:

Bach - Goldberg Variations
https://www.goldbergvariations.org

Lazarillo de Tormes
https://www.lazarillodetormes.org

Madame Bovary
https://www.madamebovary.org

Il Fu Mattia Pascal
https://www.mattiapascal.it

The Voice in the Desert
https://www.thevoiceinthedesert.org

Confessione d'un amore fascista
https://www.amorefascista.it

Malinverno
https://www.malinverno.org

Debito formativo
https://www.debitoformativo.it

Adina Spire
https://www.adinaspire.com