Ebooks, Audobooks and Classical Music from Liber Liber
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z





Web - Amazon

We provide Linux to the World


We support WINRAR [What is this] - [Download .exe file(s) for Windows]

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
SITEMAP
Audiobooks by Valerio Di Stefano: Single Download - Complete Download [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Alphabetical Download  [TAR] [WIM] [ZIP] [RAR] - Download Instructions

Make a donation: IBAN: IT36M0708677020000000008016 - BIC/SWIFT:  ICRAITRRU60 - VALERIO DI STEFANO or
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
หุบเขาเร้นรัก - วิกิพีเดีย

หุบเขาเร้นรัก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โปสเตอร์ภาพยนตร์
โปสเตอร์ภาพยนตร์

หุบเขาเร้นรัก (อังกฤษ Brokeback Mountain) เป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือเมื่อปี พ.ศ. 2548 มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชายหนุ่มสองคนในอเมริกาตะวันตก ยุคปี ค.ศ. 1963 - 1983 ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยหลี่อัน ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไต้หวัน สร้างจากบทภาพยนตร์โดยไดอานา ออสซานา และ แลร์รี แมกเมอทรี ซึ่งดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันโดย แอนนี พรูซ์ นำแสดงโดย ฮีท เลดเจอร์, เจค กิลเลนฮาล, แอนน์ แฮทาเวย์ และ มิเชลล์ วิลเลียมส์

หุบเขาเร้นรัก ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก British Academy of Film and Television Arts, รางวัลลูกโลกทองคำ, Critics Choice Awards และ Independent Spirit Awards ทั้งนี้ยังไม่รวมรางวัลจากสถาบันและงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ หุบเขาเร้นรัก ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะแคเดมี (ออสการ์) ครั้งที่ 78 มากที่สุดถึง 8 สาขา นักแสดงหลักต่างถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล เช่น รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งยังได้รับการคาดหมายเป็นตัวเก็งว่าน่าจะคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ในที่สุด หุบเขาเร้นรัก ก็คว้ามาได้เพียง 3 สาขา ได้แก่ [รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และ รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม

  • คำโปรย: Love is a Force of Nature

[แก้] โครงเรื่อง

หุบเขาเร้นรัก เป็นเรื่องราวชีวิตของเอนนิส เดล มาร์ (ฮีท เลดเจอร์) และ แจ็ก ทวิสต์ (เจค กิลเลนฮาล) คาวบอยหนุ่มสองคนที่พานพบและตกหลุมรักกันเมื่อปี ค.ศ. 1963 ระหว่างทำงานต้อนแกะบนภูเขาโบรคแบ็กในมลรัฐไวโอมิง ภาพยนตร์นำพาผู้ชมผ่านความสัมพันธ์อันซับซ้อนของบุคคลทั้งสองตลอดช่วง 20 ปีให้หลัง

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
ฮีท เลดเจอร์ รับบทเป็นเอนนิส เดล มาร์
ฮีท เลดเจอร์ รับบทเป็นเอนนิส เดล มาร์

เอนนิสและแจ็กเริ่มงานบนภูเขาโบรคแบ็กโดยแยกกันอยู่คนละที่ เอนนิสอยู่เฝ้าแคมป์ ส่วนแจ็กเฝ้าแกะบนภูเขาที่อยู่สูงเหนือขึ้นไป ช่วงแรกทั้งสองจึงพบกันเฉพาะเวลาอาหารที่แคมป์ นานเข้าจากที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ทั้งคู่เริ่มสนิทจนเป็นเพื่อนกัน ไม่นานหลังจากนั้นเริ่มมีการสลับหน้าที่กันโดยแจ็กอยู่เฝ้าแคมป์และเอนนิสออกไปเฝ้าแกะ คืนหนึ่งทั้งสองคนดื่มวิสกี้จนเมามาย เอนนิสตัดสินใจไม่ไปเฝ้าแกะและลังเลที่จะเข้าไปนอนในกระโจมเดียวกับแจ็ก ดึกมากขึ้นเมื่อกองไฟที่จุดไว้มอดดับไป อากาศหนาวเย็นมากจนแจ็กต้องเรียกให้เอนนิสเข้าไปนอนในกระโจม ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อนในคืนนั้นและยิ่งแนบแน่นขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อน

เมื่องานบนภูเขาโบรคแบ็กถึงคราวสิ้นสุด ทั้งคู่แยกย้ายกันไปคนละทาง เอนนิสกลับไปเริ่มต้นชีวิตครอบครัวโดยแต่งงานกับคู่หมั้น อัลมา เบียส์ (มิเชลล์ วิลเลียมส์) แจ็กได้พบและแต่งงานกับ ลูรีน นิวซัม (แอนน์ แฮทาเวย์) สาวสวยนักขี่ม้าครอบครัวมีอันจะกินที่เทกซัส เอนนิสได้ลูกสาวสองคนขณะที่แจ็กมีลูกชายหนึ่งคน

4 ปีต่อมา เอนนิสได้รับไปรษณียบัตรจากแจ็ก แจ้งข่าวว่าเขาจะเดินทางผ่านมาแถวนั้น และแวะมาเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า การพบกันทำให้พวกเขารู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อกันยังคงเหมือนครั้งที่ได้เจอกันบนภูเขาโบรคแบ็ก แจ็กเริ่มเอ่ยถึงความเป็นไปได้ที่เขาทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฟาร์มเล็ก ๆ ทว่านอกจากไม่อยากจากครอบครัวแล้ว เอนนิสยังฝังใจกับความทรงจำในอดีตที่เขาได้รับรู้ถึงการทรมานและการฆาตกรรมชายที่เป็นเกย์ เอนนิสกลัวว่าการเปิดเผยความสัมพันธ์อาจทำให้ชีวิตของเขาต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรมในที่สุด หลังจากพบกันคราวนั้น เอนนิสกับแจ็กก็นัดพบกันอีกบนภูเขาโบรคแบ็กแต่ไม่บ่อยนัก

ปีแล้วปีเล่า ชีวิตแต่งงานของเอนนิสมีแต่ย่ำแย่ลง ส่วนหนึ่งเพราะอัลมาล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีของเธอกับแจ็กนับตั้งแต่การนัดพบผ่านไปรษณียบัตรครั้งแรก อัลมาหย่าขาดกับเอนนิสโดยรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองคน เมื่อทราบข่าวนี้แจ็กหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าการหย่าจะเปิดทางให้เขาได้อยู่กับเอนนิสในที่สุด แต่แจ็กคิดผิด เอนนิสปฏิเสธที่จะย้ายไปอยู่เทกซัส เขายังต้องการอยู่ใกล้ลูกสาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาวคนโต อัลมา จูเนียร์ ที่พบกันเสมอ นอกจากนั้นเอนนิสยังได้ออกเดตกับบริกรหญิงคนหนึ่งด้วย

กิลเลนฮาล รับบทเป็นแจ็ก ทวิสต์
กิลเลนฮาล รับบทเป็นแจ็ก ทวิสต์

ในการพบกันครั้งสุดท้ายบนภูเขาโบรคแบ็ก เอนนิสยืนกรานที่จะไม่ทิ้งงานของเขาและบอกให้แจ็กรู้ว่าเขาไม่สามารถพบแจ็กได้จนกว่าจะถึงเดือนพฤศจิกายน ทั้งคู่มีปากเสียงกันเมื่อแจ็กตัดพ้อถึงเรื่องการพบกันที่แสนยาก และท่าทีเฉยเมยของเอนนิสต่อข้อเสนอของเขาที่อยากให้เอนนิสย้ายไปอยู่ด้วย การโต้เถียงจบลงด้วยดีแม้ว่าความอึดอัดคับข้องใจยังคงอยู่

หลายเดือนต่อมา ไปรษณียบัตรที่เอนนิสส่งถึงแจ็กทวงถามเรื่องนัดพบเดือนพฤศจิกายนถูกตีกลับ บนไปรษณียบัตรถูกตีตราว่า "ตาย" เอนนิสโทรศัพท์หาภรรยาของแจ็ก ลูรีนบอกเอนนิสว่าแจ็กตายในอุบัติเหตุ ขณะฟังคำอธิบายทางโทรศัพท์อยู่นั้น ภาพที่ผุดขึ้นในหัวของเอนนิสเป็นภาพของแจ็กถูกตีโดยชาย 3 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอนนิสไม่เชื่อว่าแจ็กจะจากไปด้วยอุบัติเหตุ ลูรีนบอกเอนนิสว่าแจ็กปรารถนาให้นำเถ้ากระดูกของเขาไปโปรยบนภูเขาโบรคแบ็ก เธอแนะให้เอนนิสลองติดต่อกับพ่อและแม่ของแจ็ก

เอนนิสเดินทางไปพบพ่อแม่ของแจ็กเพื่อแจ้งถึงสิ่งที่ลูรีนบอก แต่ผู้เป็นพ่อปฏิเสธไม่ยอมให้นำเถ้ากระดูกของบุตรชายไปยังภูเขาโบรคแบ็ก แม่ที่ดูจะเป็นมิตรกว่า เอ่ยปากอนุญาตให้เอนนิสขึ้นไปดูห้องนอนสมัยเด็กของแจ็กที่ชั้นบน ที่นั่นเอนนิสค้นพบเสื้อเชิร์ตของแจ็กถูกซ่อนอยู่ ด้านในเสื้อตัวนี้มีเสื้ออีกตัวหนึ่ง เป็นเสื้อของเขานั่นเอง เสื้อสองตัวแขวนอยู่ในไม้แขวนเสื้ออันเดียวกัน และเป็นเสื้อตัวที่ทั้งคู่สวมบนภูเขาโบรคแบ็กก่อนจากกันเมื่อปี 1963

หลังจากพบกับพ่อและแม่ของแจ็กไม่นาน ลูกสาวคนโตของเอนนิสที่อายุ 19 ปีแล้ว เดินทางไปเยี่ยมเขาที่บ้านเพื่อแจ้งข่าวเรื่องการแต่งงานของเธอ ทีแรกเอนนิสดูเหมือนจะไม่ไปร่วมงานแต่งงานโดยอ้างว่าเขาอาจติดธุระ แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงพร้อมกับชวนลูกสาวดื่มวิสกี้ฉลอง เอนนิสถามลูกสาวของเขาว่าคู่หมั้นของเธอรักเธอหรือไม่ เธอตอบอย่างมั่นใจว่ารัก

ในช่วงท้ายของภาพยนตร์ เอนนิสเปิดตู้เสื้อผ้าออก เผยให้เห็นเสื้อตัวเดิมของเขาและแจ็ก คราวนี้เสื้อถูกวางสลับตำแหน่งกัน เสื้อสีขาวของเอนนิสอยู่ด้านนอกเสื้อสีน้ำเงินของแจ็ก เสมือนกับว่าเขาโอบกอดแจ็กไว้ ที่บานประตูตู้เสื้อผ้ามีไปรษณียบัตรติดอยู่ บนไปรษณียบัตรเป็นภาพถ่ายภูเขาโบรคแบ็ก เอนนิสติดกระดุมเสื้อของแจ็กอย่างประณีตบรรจงพร้อม ๆ กับน้ำตาที่เอ่อท้น พึมพำเบา ๆ อยู่ในลำคอว่า "แจ็ก, ฉันสาบาน... ." หลังจากนั้นเอนนิสจัดไปรษณียบัตรให้เข้าที่พร้อมกับปิดบานประตูตู้เสื้อผ้า ไกลออกไปนอกหน้าต่าง มองเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว ถนนดินลูกรัง และทุ่งสีเหลืองอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา [ฉากจบ]

[แก้] ข้อมูลภาพยนตร์

[แก้] ลิงก์ภายนอก

Our "Network":

Project Gutenberg
https://gutenberg.classicistranieri.com

Encyclopaedia Britannica 1911
https://encyclopaediabritannica.classicistranieri.com

Librivox Audiobooks
https://librivox.classicistranieri.com

Linux Distributions
https://old.classicistranieri.com

Magnatune (MP3 Music)
https://magnatune.classicistranieri.com

Static Wikipedia (June 2008)
https://wikipedia.classicistranieri.com

Static Wikipedia (March 2008)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com/mar2008/

Static Wikipedia (2007)
https://wikipedia2007.classicistranieri.com

Static Wikipedia (2006)
https://wikipedia2006.classicistranieri.com

Liber Liber
https://liberliber.classicistranieri.com

ZIM Files for Kiwix
https://zim.classicistranieri.com


Other Websites:

Bach - Goldberg Variations
https://www.goldbergvariations.org

Lazarillo de Tormes
https://www.lazarillodetormes.org

Madame Bovary
https://www.madamebovary.org

Il Fu Mattia Pascal
https://www.mattiapascal.it

The Voice in the Desert
https://www.thevoiceinthedesert.org

Confessione d'un amore fascista
https://www.amorefascista.it

Malinverno
https://www.malinverno.org

Debito formativo
https://www.debitoformativo.it

Adina Spire
https://www.adinaspire.com