โผน กิ่งเพชร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อจริง | มานะ สีดอกบวบ | |
วันเกิด | 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 | |
สถานที่เกิด | อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
|
วันที่เสียชีวิต | 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 | |
รุ่น | ฟลายเวท | |
ผู้จัดการ | ทองทศ อินทรทัต หิรัญ สีดอกบวบ (พี่ชาย) |
|
เทรนเนอร์ | นิยม ทองชิต | |
สถิติ | ||
ชก | 35 | |
ชนะ | 28 | |
ชนะน็อก | 9 | |
แพ้ | 7 | |
เสมอ | - |
โผน กิ่งเพชร ชื่อจริงว่า มานะ สีดอกบวบ เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 มีชื่อเล่นว่า " แกละ " เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 9 คน ของนายห้อย และนางริ้ว สีดอกบวบ เป็นแชมป์โลกชาวไทยแรกในประวัติศาสตร์ โผนจบการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนหัวหินวิทยา ด้วยความเป็นคนรักกีฬา ชอบเล่นกีฬาทุกประเภท แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ มวยสากล ถึงขนาดเคยลั่นวาจาต่อหน้าเพื่อน ๆ ว่า เขาจะเป็นแชมป์โลกคนแรกของไทยให้ได้ (เนื่องด้วยก่อนหน้านั้น จำเริญ ทรงกิตรัตน์ เคยชิงแชมเปี้ยนโลกมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลย)
โผน ฝึกและขึ้นชกมวยครั้งแรกที่หัวหินบ้านเกิด มีฝีมือดีที่เป็นที่ลือลั่น แต่ สง่า สีดอกบวบ พี่ชายคนโต ไม่เห็นชอบด้วย จึงนำโผนมาฝากไว้กับ นายห้างทองทศ อินทรทัต เจ้าของบริษัทเทวกรรม โอสถ ซึ่งเป็นเจ้าของค่าย " กิ่งเพชร " ในซอยชื่อเดียวกับค่าย ย่านถนนเพชรบุรี ซึ่งโผนได้รับการฝึกสอนและขึ้นชกสม่ำเสมออย่างจริงจัง โดยที่มาของชื่อ " โผน " นั้น เป็นชื่อของน้องชายนายห้างทองทศ ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์กบฏวังหลวง พ.ศ. 2492 ก่อนหน้านี้ (พ.ต. โผน อินทรทัต อดีตเสรีไทย, ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ขณะนั้น)
การชกของโผนดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชนะน็อก กู้น้อย วิถีชัย แชมป์ฟลายเวทของเวทีราชดำเนิน ได้อย่างงดงาม ทั้ง ๆ ที่โผนมีประสบการณ์น้อยกว่าอย่างเทียบไม่ติด และต่อมาเมื่อมีการแก้มือกัน โผนก็ชนะคะแนนไปได้อีกครั้ง ต่อมา โผนได้ขึ้นชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกล ฯ (OPBF) โดยชนะคะแนน แดนนี่ คิด เจ้าของตำแหน่งชาวฟิลิปปินส์ โผนจึงได้มีชื่อติดอันดับโลก และเป็นกรุยทางสู่การชิงแชมป์โลก
สารบัญ |
[แก้] ชิงแชมป์โลก
การชิงแชมป์โลกของโผนได้กระทำต่อหน้าพระพักตร์ กับปาสคาล เปเรซ แชมเปี้ยนชาวอาร์เจนตินา ณ เวทีมวยลุมพินี เมื่อคืนวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2503 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ โดยในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรด้วย
สำหรับ ปาสคาล เปเรซ แชมเปี้ยนนั้น เคยครองเหรียญเงินโอลิมปิคมาแล้ว จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ที่กรุงลอนดอน ใน ปี พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948) และก่อนหน้าจะมาป้องกันตำแหน่งกับโผนนั้น ได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้แล้วถึง 10 ครั้ง ครองแชมป์อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 5 ปี โดยอายุของเปเรซขณะนั้นได้ 33 ปี ขณะที่โผนอายุเพียง 25 ปี ผ่านการชกมาแค่ 22 ไฟท์
เมื่อมาถึง คนไทยให้ฉายาเปเรซว่า " ยักษ์แคระ " เพราะเป็นนักมวยรูปร่างเล็ก แต่มีช่วงแขนที่ใหญ่ ดูบึกบึน ก่อนถึงวันชก มีการโปรโมตตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น แต่งเพลงเชียร์โผนเป็นทำนองเพลงมาร์ช ปลุกใจ ตามวิทยุ หรือ รถกระจายเสียง ซึ่งผู้แต่งคือ สุรพล โทณะวนิก และผู้ร้องคือ มีศักดิ์ นาครัตน์ มีเนื้อร้องบางช่วงว่า " เราเชียร์โผน...เราเชียร์โผน...เราเชียร์โผน..โผน...โผน...โผน...โผน เปเรซจะแข็งอย่างไร แต่โผนเลือดไทย....ต้องเชียร์ไว้ดีกว่า....." แต่ก็มีเด็ก ๆ ไปเเปลงเนื้อเป็น " โผน กิ่งเพชร เปเรซ กิ่งไผ่ โผน มือไวต่อยไข่ เปเรซ " ซึ่งในวันชกนั้น ไม่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เนื่องจากประเทศไทยขณะนั้น ยังไม่มีสถานีโทรทัศน์ แต่มีการถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียง และมีการบันทึกการชกเป็นหนังสารคดีฉายตามโรงภาพยนตร์ภายหลังแทน
ผลการแข่งขัน โผน ชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ โดยกรรมการ โลเรนโซ เทอเลบ้า กรรมการห้ามบนเวทีชาวอาร์เจนตินา ชาติเดียวกับเปเรซ ให้เปเรซชนะ 145 - 143 กรรมการชาวไทย วงศ์ หิรัญยเลขา ให้โผนชนะ 148 - 137 และ แน็ต แฟลชเชอร์ กรรมการจากเดอะ ริง ให้โผนชนะ 146 - 140 ได้ครองแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท ของสถาบันเดอะริง (The Ring) เป็นแชมป์โลกคนแรกของไทย ในส่วนของหัวหิน บ้านเกิด ภายหลังรู้ผลการชก ก็ได้มีการจุดพลุ ฉลองทั่วทั้งเมืองทันที ซึ่งต่อมาสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้ วันที่ 16 เมษายน ของทุกปี เป็น วันนักกีฬายอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีการมอบรางวัลถ้วยพระราชทานเป็นประจำทุกปี (คนละวันกับวันกีฬาแห่งชาติ (16 ธันวาคม)ที่กำหนดตามวันที่ในหลวงทรงได้เหรียญทองซีเกมส์ )
[แก้] เมื่อเป็นแชมป์โลก
โผน กิ่งเพชร เป็นนักมวยรูปร่างผอมบาง มีช่วงขาที่ยาว เทรนเนอร์ คือ ครูนิยม ทองชิต ฝึกความแข็งแกร่งของขา โดยให้โผนเล่นสกีน้ำ ที่ชายหาดหัวหิน บ้านเกิด
ในการชกครั้งต่อๆมา เมื่อโผน กิ่งเพชร เสียตำแหน่งไปก็สามารถชิงกลับมาได้ถึง 3 ครั้ง โดยมีหลายไฟท์ในความทรงจำ เช่น การแก้มือกับ ปาสคาล เปเรซ ที่ลอสแองเจลิส โดยชนะทีเคโอไปอย่างหายสงสัย ชนะคะแนน " เสือหมัดซ้าย " มิตสุโนริ เซกิ ถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผลัดแพ้ - ชนะกับ มาซาฮิโกะ " ไฟติ้ง " ฮาราด้า และ ฮิโรยูกิ เอบิฮาร่า อย่างดุเดิอดถึง 2 ครั้ง เป็นต้น
[แก้] บั้นปลายชีวิต
แต่ช่วงปลายชีวิตการชกมวยของโผนไม่เป็นที่ราบรื่น เพราะขัดแย้งกับเทรนเนอร์ และผู้จัดการเสมอ ๆ จนต้องมีการเปลี่ยนตัวบ่อยครั้ง ประกอบกับโผนเองก็ติดสุราอย่างหนัก จนเกือบเป็นสุราเรื้อรัง หนีซ้อม ผลการชกก็ตกลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดต้องประกาศเลิกชกมวยเมื่อ พ.ศ. 2509 เมื่ออายุได้ 31 ปี ชีวิตของโผนตกต่ำอย่างที่สุด เพราะทรัพย์สินเงินทองเมื่อครั้งได้จากการชกมวยก็ร่อยหรอ แม้แต่โรงเรียนมานะวิทยา ที่เคยสร้างไว้ที่บ้านเกิด เมื่อครั้งรุ่งเรือง ก็ต้องขายทิ้ง ประกอบอาชีพค้าขายก็ขาดทุน เพราะไม่เจนจัดเล่ห์เหลี่ยมการค้า ส่วนตัวโผนเองก็มีโรคประจำตัวเรื้อรังคือ โรคเบาหวาน
ท้ายที่สุด ขณะรับประทานอาหารกับครอบครัวที่บ้านหัวหิน อาหารเกิดสำลักเข้าไปติดอยู่ในหลอดลม ทำให้เกิดการบูดเน่าและโลหิตเป็นพิษ อาการของโผนทรุดหนัก เพราะเป็นหวัดอยู่ด้วยและเป็นโรคปอดแทรกซ้อนเข้ามา ครอบครัวต้องนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นการด่วน อาการก็ไม่ดีขึ้น จนในที่สุด เวลา 5 ทุ่ม ของคืนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 โผนก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ด้วยวัยเพียง 47 ปี 3 เดือน 19 วัน
[แก้] เกียรติประวัติ
- แชมป์ OPBF รุ่นฟลายเวท (2500)
- ชิง, 6 มกราคม 2500 ชนะคะแนนแดนนี่ คิด ที่ กรุงเทพฯ
- ป้องกันครั้งที่ 1, 14 กันยายน 2500 ชนะคะแนน ฮิโตชิ มิซาโกะ ที่ กรุงเทพฯ
- แชมป์โลกรุ่นฟลายเวท (2503 – 2505)
- ชิง, 16 เมษายน 2503 ชนะคะแนน ปาสคาล เปเรซ ที่ เวทีลุมพินี
- ป้องกันครั้งที่ 1, 22 กันยายน 2503 ชนะน็อค ปาสคาล เปเรซ ยก 8 ที่ สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 2, 27 มิถุนายน 2504 ชนะคะแนน มิตสุโนริ เซกิ ที่ ญี่ปุ่น
- ป้องกันครั้งที่ 3, 30 พฤษภาคม 2505 ชนะคะแนน เคียว โนกูจิ ที่ ญี่ปุ่น
- เสียแชมป์, 10 ตุลาคม 2505 แพ้น็อค ไฟติ้ง ฮาราด้า ยก 11 ที่ ญี่ปุ่น
- แชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBA, WBC (2506)
- ชิง, 12 มกราคม 2506 ชนะคะแนน ไฟติ้ง ฮาราด้า ที่ กรุงเทพฯ
- เสียแชมป์, 18 กันยายน 2506 แพ้น็อค ฮิโรยูกิ เอบิฮาร่า ยก 1 ที่ ญี่ปุ่น
- แชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBA, WBC (2507 – 2508)
- ชิง, WBA, WBC 23 มกราคม 2507 ชนะคะแนน ฮิโรยูกิ เอบิฮาร่า ที่ เวทีราชดำเนิน
- เสียแชมป์, 23 เมษายน 2508 แพ้คะแนน ซัลวาโตเร่ เบอร์รูนี่ ที่ อิตาลี
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- ชิงแชมป์ OPBF รุ่นแบนตัมเวท 7 กรกฎาคม 2500 แพ้คะแนน เลียว เอสปิโนซ่า ที่ กรุงเทพฯ