เลขฟีโบนักชี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ในคณิตศาสตร์ เลขฟิโบนักชี (Fibonacci number) เป็นเลขในลำดับเลขฟิโบนักชี จำกัดความหมายด้วยสูตร:
โดยกฎว่าเลขลำดับแรกคือ 0 ลำดับที่สองคือ 1 และลำดับถัดไปคือผลบวกของเลขในสองลำดับก่อนหน้านี้ รายชื่อตัวเลขดังนี้คือลำดับเลขฟิโบนักชี เริ่มต้นจากลำดับแรก:
- 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377, 610, 987, 1597, 2584, 4181, 6765, 10946, ฯลฯ
ชื่อของจำนวนฟิโบนักชีตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ ลีโอนาโดแห่งปิซา (Leonardo de Pisa) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามฟีโบนักชี (Fibonacci) ผู้ค้นพบลำดับฟีโบนักชีในต้นศตวรรษที่ 13
[แก้] รูปปิด
เนื่องจากลำดับฟีโบนักชีเป็นลำดับที่นิยามด้วยความสัมพันธ์เวียนบังเกิดเชิงเส้น เราจึงสามารถหารูปปิดของจำนวนฟีโบนักชีได้ โดยสมการแสดงรูปปิดของจำนวนฟีโบนักชี มีชื่อเรียกว่า สูตรของบิเนต์ มีดังต่อไปนี้
โดย เป็นตัวเลขที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าอัตราส่วนทองคำ
การพิสูจน์:
พิจารณาสมการพหุนาม x2 = x + 1 เมื่อคูณทั้งสองข้างด้วย xn − 1 เราได้ว่า
ผลเฉลยของสมการ x2 = x + 1 ได้แก่ และ
ดังนั้น
-
= และ
=
พิจารณาฟังก์ชัน
เมื่อ a และ b เป็นจำนวนจริงใดๆ
เราได้ว่าฟังก์ชันเหล่านี้สอดคล้องกับความสัมพันธ์เวียนบังเกิดที่ใช้นิยมเลขฟีโบนักชี
เลือก and
เราได้ว่า
และ
เราสามารถใช้ข้อความนี้เป็นฐานของการพิสูจน์แบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ของข้อความ Fa,b(n) = F(n) และใช้เอกลักษณ์ของ Fa,b พิสูจน์กรณีอุปนัยได้ เราจึงสามารถสรุปว่า
สำหรับจำนวนเต็มที่ไม่เป็นลบ n ทุกตัว
เนื่องจาก สำหรับทุกๆ
เราจึงได้ว่า
จึงเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้
ที่สุด หรือเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์โดยใช้ฟังก์ชันพื้น (floor function) ได้ว่า
[แก้] ความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทองคำ
โยฮันน์ เคปเลอร์ ค้นพบว่าอัตราส่วนของจำนวนฟีโบนักชีที่ติดกันลู่เข้าสู่อัตราส่วนทองคำ กล่าวคือ
ลู่เข้าสู่อัตราส่วนทองคำ
การพิสูจน์:
สำหรับจำนวนจริง เราได้ว่า
-
,
เนื่องจาก ดังนั้น
เนื่องจากจำนวนฟีโบนักชีคือ Fa,b เมื่อ และ
ลิมิตของอัตราส่วนของเลขฟีโบนักชีที่ติดกันจึงสอดคล้องกับสมการข้างบนด้วย
[แก้] การนำไปใช้
จำนวนฟีโบนักชีมีความสำคัญในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของยูคลีเดียนอัลกอริทึมซึ่งใช้ในการหาตัวหารร่วมมากของจำนวนเต็มสองจำนวน โดยยูคลิเดียนอัลกอริทึมจะทำงานได้ช้าที่สุดถ้าข้อมูลเข้าเป็นจำนวนฟิโบนักชีสองตัวที่ติดกัน
ยูริ มาิทิยาเซวิช พิสูจน์ได้ว่าจำนวนฟิโบนักชีมีนิยามในรูปของผลเฉลยของสมการไดโอแฟนไทน์ ซึ่งความจริงข้อนี้นำไปสู่การแก้ปัญหาข้อที่ 10 ของฮิลแบร์ท
จำนวนเต็มทุกจำนวนสามารถเขียนอยู่ในรูปของผลบวกของจำนวนฟิโบนักชีที่ไม่ติดกินได้เพียงแบบเดียวเท่านั้น ความจริงข้อนี้เป็นที่รู้จักกันในนามทฤษฎีบทของเซคเคนดอร์ฟ การเขียนจำนวนเต็มในรูปดังกล่าวเรียกว่า การนำเสนอแบบเซคเคนดอร์ฟ
ตัวกำเนิดจำนวนสุ่มเทียมบางตัวใช้จำนวนฟิโบนักชีเป็นเครื่องมือในการสร้างเลขสุ่ม
จำนวนฟีโบนักชีถูกใช้กำหนดความยาวของส่วนประกอบต่างๆ ของงานศิลปะ และถูกใช้ในการเทียบเสียงเครื่องดนตรี ผลงานเพลงที่มีความเกี่ยวข้องกับจำนวนฟีโบนักชี ได้แก่ เพลงสำหรับเครื่องสาย เครื่องประกอบจังหวะ และซีเลสตา ของ เบลา บาท็อก, และเพลงแลเทอราทัส ของวงทูล ซึ่งมีจำนวนพยางค์ในวรรคของเนื้อร้องเท่ากับจำนวนฟีโบนักชี ("Black/Then/White are/All I see/In my infancy/Red and yellow then came to be")