อำเภอเมืองจันทบุรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถิติ | |
---|---|
จังหวัด: | จังหวัดจันทบุรี |
พื้นที่: | 253.1 ตร.กม. |
ประชากร: | 124,462 (พ.ศ. 2543) |
ความหนาแน่น: | 491.8 คน/ตร.กม. |
รหัสไปรษณีย์: | 22000 |
รหัสทางภูมิศาสตร์: | 2201 |
แผนที่ | |
สารบัญ |
[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
อำเภอเมืองจันทบุรีแบ่งเขตการปกครองย่อย เป็น 11 ตำบล
|
|
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมือง
[แก้] วัดคาทอลิกจันทบุรี
เป็นวัดคาทอลิกที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิตร ถัดจากวัดไผ่ล้อมไปทางแยกขวา 2 กม. เป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ตามหลักฐานในเอกสารได้บันทึกไว้ว่าเริ่มสร้างวัดระหว่าง ปี พ.ศ. 2254-2285 โดยบาทหลวงคาทอลิกฝรั่งเศสและสัตบุรุษชาวญวณ ที่อาศัยอยู่ในเมืองจันทบุรีขณะนั้น และทำการปรับปรุงมาโดยตลอด ครั้งสุดท้ายได้บูรณะวัดในปี พ.ศ. 2487-2528 ได้ชื่อว่าเป็นวัดคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เรียกว่า ศิลปะแบบโกธิค ตบแต่งด้วยกระจกสีติดผนัง เป็นภาพทางคริสต์ศาสนาที่สวยงามมาก
วัดเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลจันทบุรี
[แก้] อู่ต่อเรือพระเจ้าตากสินมหาราช
เชื่อว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้เป็นที่ต่อเรือรบ เมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่า เพื่อกู้เอกราชชาติไทย เมื่อ พ.ศ. 2310 โดยทางหลวงโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปกร ได้ทำการขุดค้นซากเรือและตรวจสอบชั้นดินทางโบราณคดี พบส่วนประกอบต่างๆ ของเรือโบราณ และสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรือสำเภาจีนแบบฟูเจียนขนาดเล็ก มีใบสามเถา ใช้หางเสือเรือ ขนาดเรือยาว 24 เมตร กว้าง 5 เมตร และบริเวณรอบๆ มีแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ตามริมฝั่งอ่าวลักษณะคล้ายอู่เรืออยู่หลายแห่ง การเดินทางอู่ต่อเรือพระเจ้าตากสินมหาราชนี้ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหมู่บ้านเสม็ดงาม เลยไปวัดเสม็ดงาม เลี้ยวขวาตรงป้ายบอกทางเข้าไปอีกประมาณ 1 กม.จะถึงอู่ต่อเรือพระเจ้าตากสินมหาราช
[แก้] ค่ายเนินวง
เป็นโบราณสถานอันเก่าแก่ที่สำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่บ้านเนินวง ตำบลบางกะจะ ห่างจากตัวเมืองไปตามถนนท่าแฉลบประมาณ 7 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางแยกอีก 400 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2377 ในรัชสมัยของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงโปรดเกล้าให้สร้างค่ายที่บ้านเนินวง อำเภอท่าใหม่ (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอเมือง) เพื่อใช้เป็นที่มั่นต่อสู้กับญวณ ต่อมาป้อมนี้ชำรุดทรุดโทรมไปมาก ปี พ.ศ. 2516 จึงได้มีการบูรณะตัวป้อมและประตูค่ายทางด้านทิศตะวันออกใหม่ เมื่อขึ้นไปยืนอยู่ตรงป้อมและมองออกไปจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลได้อย่างชัดเจน และสองฟากของตัวป้อมเป็นกำแพงวัด ปัจจุบันทางกรมศิลปกรได้นำปืนโบราณมาตั้งแสดงไว้ โดยหันกระบอกปืนสู่ทะเลอย่างเตรียมพร้อม ส่วนภายในบริเวณค่ายซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสวนยาง และสวนผลไม้ ยังมีวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งที่สร้างขึ้นมาพร้อมค่ายแห่งนี้คือ วัดโยธานิมิต นอกจากนี้ยังจะมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การพาณิชย์นาวีตั้งอยู่ มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือ การค้าทางทะเล แสดงการสำรวจการขุดค้นพบโบราณคดีใต้น้ำ แสดงเครื่องถ้วยชามสังคโลกที่ได้จากซากเรือโบราณที่จมในอ่าวไทย