หมานคร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โปสเตอร์ หมานคร

โปสเตอร์ หมานคร เวอร์ชั่นฝรั่งเศส

"หมานคร" หรือ "Citizen Dog" เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่ 2 ซึ่งกำกับโดย วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง (Wisit Sasanatieng) เป็นภาพยนตร์แนวตลก/โรแมนติก/เมจิคัล เรียลลิสม์ ซึ่งดัดแปลงจากนิยายขนาดสั้นของ "คอยนุช" โดยผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ได้ให้คำจำกัดความหนังของตัวเองเอาไว้ว่า "หนังรักรื่นรมย์ อารมณ์ดี ประหลาดโลก"

[แก้] เรื่องย่อ

หมานคร เล่าเรื่องของ ป๊อด หนุ่มบ้านนอกที่เข้ากรุงมาพร้อมกับคำทักของยายว่า "เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ระวังจะมีหางงอกออกมาจากก้น" เขาได้ทำงานเป็นพนักงานในโรงงานปลากระป๋อง แต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่อยากตัดนิ้วตัวเองใส่กระป๋องอีกหน จากนั้น เขาสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย เขาหลงรัก "จิน" พนักงานทำความสะอาดซึ่งหมกมุ่นกับการทำความสะอาดและจัดระเบียบสิ่งของ เธอเข้ามาทำงานในกรุงเทพเพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเองอ่านหนังสือปกขาวเล่มหนึ่งที่ตกลงมาจากฟ้าออก นอกจากนั้น ป๊อดยังได้ไปเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นๆ เช่น มอเตอร์ไซค์ผีที่ตายเพราะฝนหมวกกันน็อค ตุ๊กตาหมีพูดได้กับเด็กหญิงผู้แก่แดด และอีกหลายต่อหลายคน รวมทั้ง "ปีเตอร์" ฝรั่งนักประท้วงผู้ที่จินหลงใหล

[แก้] เนื้อหาและสไตล์

หนังมีเนื้อหาซึ่งเสียดสีวิถึชีวิตของผู้คนในกรุงเทพฯ และมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความรักว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตของคนทุกคน เป็นเนื่อหาซึ่งคนดูเข้าถึงได้ง่ายกว่าหนังเรื่องที่แล้วของวิศิษฏ์ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่เขากำกับด้วย-นั่นคือ"ฟ้าทะลายโจร"

หนังถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ไวด์และมีการปรับแต่งสีสันให้ฉูดฉาดจัดจ้านเกินจริง ซึ่งเป็นลักษณะอย่างเดียวกับ ฟ้าทะลายโจรและนำเสนอเนื้อหาออกมาเป็นภาพในลักษณะเหนือจริง เช่น ฝนที่ตกลงมาเป็นหมวกกันน็อกทั่วทั้งฟ้า ภูเขาพลาสติกซึ่งสูงเทียมตึกระฟ้า ผู้คนที่เบียดกันบนรถมาจนได้เสียกันจริงๆ เป็นต้น

สำหรับการแสดงซึ่งดูแข็งๆนั้น วิศิษฏ์อ้างอิงจากภาพยนตร์ซึ่งกำกับโดยอากิ เคาริสมากิ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังชาวฟินแลนด์ เช่น Drifiting Cloud, The Man Without the Past เป็นต้น เอกลักษณ์เฉพาะของหนังคือ นักแสดงจะแสดงกันโดยมีสีหน้าแข็งกระด้าง ท่าทางนิ่งๆ นอกจากนั้น หนังยังมักเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนตัวเล็กๆในสังคม ซึ่งส่งอิทธิพลต่อหมานครเช่นกัน

[แก้] เพลงประกอบ

หนังใช้เพลง ก่อน ของโมเดิร์นด็อกเป็นเพลงประกอบหลักของภาพยนตร์ หนังใช้เพลงในฉากเปิดตัวของหนังซึ่งทุกคนในเมืองกรุงเทพร้องเพลงออกมาพร้อมๆกันยกเว้นป๊อด รวมไปถึงเครดิตปิดท้ายซึ่งเป็นภาพวงคนตาบอดร้องเพลง แต่จริงๆแล้วเป็นเสียงร้องของโมเดิร์นด็อก

[แก้] ผลตอบรับ

เช่นเดียวกับ "ฟ้าทะลายโจร" "หมานคร"ขาดทุนด้านรายรับภายในประเทศเพราะไม่ได้รับการต้อนรับจากผู้ชมมากนัก อย่างไรก็ตาม หนังประสบความสำเร็จพอสมควรในระดับนานาชาติ มีหลายประเทศซึ่งซื้อหนังไปจัดจำหน่าย เช่น สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เป็นต้น นอกจากนั้นยังได้รับเชิญให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์หลายเทศกาล และทำให้วิศิษฏ์เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากขึ้น

[แก้] รางวัลและเกียรติคุณ

รางวัลสมาบพันธ์ภาพยนตร์ไทยสาขาเทคนิคพิเศษทางภาพยอดเยี่ยม ปีพ.ศ. 2547
รางวัลเหรียญเงิน สำหรับภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมากที่สุด และเหรียญทองแดงสำหรับสาขาภาพยนตร์เอเชียยอดเยี่ยม ประจำปีพ.ศ. 2549 จากเทศกาลภาพยนตร์แฟนตาเซีย
จัดฉายกลางแจ้งที่ Piazza Grande ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโลคาร์โน(สวิตเซอร์แลนด์)ครั้งที่ 58 ประจำปี พ.ศ. 2548
รางวัลนักวิจารณ์ จากเทศกาลภาพยนตร์เอเชียโดวิลล์ ประจำปีพ.ศ. 2548
ได้รับการจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีพ.ศ. 2548 อันดับที่ 6 โดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งนิตยสาร ไทม์ "ริชาร์ด คอร์ลิสส์"

[แก้] เกร็ดหนัง

สำหรับฉากบ้านของจินเมื่อตอนที่เธออยู่ในชนบท ทีมงานต้องตระเวนหาบ้านริมน้ำจริงๆ แล้วจัดการทาสีบ้านกันเองและปลูกดอกบัวเพิ่มเติม และเมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายทำฉากนี้ ทีมงานก็ต้องทาสีบ้านให้เจ้าของกลับเป็นอย่างเดิมอีกครั้ง
ฉากภูเขาพลาสติก ทีมงานต้องขนกองพลาสติกน้ำหนักกว่า 2 ตันขึ้นไปบนตึกจริงๆ แล้วจึงมาแต่งภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์อีกที
ก่อนถ่ายทำหมานคร วิศิษฏิ์ทดลองผลที่จะได้จากการถ่ายภาพด้วยเลนส์ไวด์และสีสันฉูดฉาดกับฉากหลังในปัจจุบันกับภาพยนตร์โฆษณาเอ็มเคชุด"กินอะไรๆ ไปกินเอ็มเค"
ในช่วงก่อนหนังเข้าฉาย บริษัท ไฟว์สตาร์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังในประเทศไทย ได้ประชาสัมพันธ์หนังโดยทำภูเขาพลาสติกขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณสี่แยกปทุมวันฝั่งตรงข้ามมาบุญครอง

[แก้] ข้อมูลจำเพาะ

ชื่อไทย : หมานคร
ชื่ออังกฤษ : Citizen Dog
ผู้กำกับการแสดง : วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง
นักแสดงนำ : มหาสมุทร บุณยรักษ์, แสงทอง เกตุอู่ทอง, สวัสดิ์วงศ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, ณัฎฐา วัฒนะไพบูลย์, เรือนคำ แสงอินทร์, Stephens Chuck
อำนวยการสร้าง : ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
อำนวยการผลิต : The Film Factory
ประเภทภาพยนตร์ : โรแมนติก, ดราม่า, ตลก
วันที่เข้าฉาย : 9 ธันวาคม 2547 (ประเทศไทย)