มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สารบัญ |
[แก้] มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ
วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิและวิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ แต่เดิมเป็นวิทยาเขตเดียวกันสังกัด สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ในปีพุทธศักราช 2526 กระทรวงศึกษาธิการได้แบ่งส่วนราชการ วิทยาเขตบพิตรพิมุข ออกเป็น 2 แห่งได้แก่
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ
ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ปรับเปลี่ยน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล9 แห่งและแบ่งส่วนราชการใหม่โดยการรวมกลุ่มวิทยาเขตที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย วิทยาเขตบพิตพิมุข มหาเมฆ กับวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ วิทยาเขตพระนครใต้ เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ รวมกลุ่มกับ วิทยาเขตเพาะช่าง วิทยาเขตศาลายา วิทยาเขตวังไกลกังวล เป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
[แก้] สถานที่ตั้ง
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ ตั้งอยู่ ณ ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ ตั้งอยู่ ณ ถนนอาคารสงเคราะห์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
[แก้] ประวัติความเป็นมา
วิทยาเขตบพิตรพิมุข แต่เดิมเป็นโรงเรียนราษฎร์ มีชื่อเดิมว่า โรงเรียนวัดบพิตรพิมุข ตั้งชื่อตามชื่อวัดบพิตรพิมุขหรือวัดเชิงเลน บพิตรพิมุข เป็นสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนมาช้านาน ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีพระภิกษุสามเณรผู้ทรงความรู้เป็นครูผู้สอน และใช้กุฎิศาลาการเปรียญ หรือศาลารายภายในวัดเป็นสถานที่เรียน ในครั้งนั้นมีผู้นิยมส่งบุตรหลานมาฝากเรียนเป็นศิษย์เรียนหนังสือในสำนักเรียนบพิตรพิมุขกันมาก นักเรียนในยุคนั้น เช่น พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด ภิรมย์ภักดี) พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) และพระยารณชัยชาญยุทธ (ศุข โชติเสถียร) เป็นต้น แต่เดิมใช้กุฏิภายในวัดเป็นสถานที่เรียน ครั้งถึงเดือนเจ็ด ปีระกา สัปตศก 1247 หรือเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2428 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศตั้งโรงเรียนบพิตรพิมุขขึ้น เป็นโรงเรียนหลวงรุ่นแรกสำหรับราษฎรได้ศึกษาเล่าเรียน โดยมีขุนอนุกิจวิธูร (น้อย จุลวิธูร) เป็นครูใหญ่คนแรก และมีนักเรียนเพียง 34 คน สมัยครูใหญ่ ขุนอนุกิจวิธูร ในปีแรกที่เปิดสอนอย่างเป็นทางการโรงเรียนวัดบพิตรพิมุขได้เปิดสอนมูลสามัญชั้นต่ำประโยค 1 ก่อน โดยจะเรียกชื่อนักเรียนจำแนกชั้นตามชื่อหนังสือที่เรียนคือ นักเรียนมูลบทบรรพกิจ นักเรียนวาหนิติ์กร นักเรียนอักษรประโยค นักเรียนสังโยคพิธาน นักเรียนไวพจน์พิจารณ์ นักเรียนพิศาลการันต์ และนักเรียนจบพิศาลการันต์ ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น ก็มีนักเรียนถึง 100 คน และการเรียนการสอนของโรงเรียนัดบพิตรพิมุขก็จบประโยค 1 บริบูรณ์ จากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่านักเรียนของโรงเรียนวัดบพิตรพิมุขสมัยแรก ๆ นั้น ในบางปี มีนักเรียนหญิงมาเรียนด้วย เช่น คุณหญิงพิชัย คุณหญิงน้อม (คุณหญิงกรุงศรีสวัสดิการ) แม่เเสริม เป็นต้น
จากนั้นการจัดการเรียนการสอนของบพิตรพิมุขก็มีพัฒนาการมาเรื่อย ๆ ดังนี้
- พ.ศ. 2439 เปิดสอนมูลสามัญชั้นสูง
- พ.ศ. 2445 เปิดสอนระดับประถมศึกษา
- พ.ศ. 2456 เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษา จึงเรียกชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนมัธยมวัดบพิตรพิมุข"
- พ.ศ. 2477 เปิดสอนชั้นมัธยม ปีที่ 7-8 แผนกวิสามัญ สอนภาษาต่างประเทศ ซึ่งต้องเรียนภาษาอังกฤษ เป็นวิชาบังคับและเรียนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น
- พ.ศ. 2480 ทางราชการได้เริ่มยุบชั้นมัธยมปีที่ 7 และได้เปิดสอนอาชีวศึกษาชั้นสูง แผนกภาษาต่างประเทศขึ้น มีหลักสูตรการเรียน 3 ปี ต่อจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำให้นักเรียนจากโรงเรียนอื่นสามารถเข้าเรียน ต่อในแผนกนี้ได้
- พ.ศ. 2492 ได้เปิดสอนชั้นมัธยมปลาย โดยแบ่งเป็น 3 สายคือ สายสามัญ ซึ่งใช้หลักสูตรเดียวกันกับโรงเรียน สามัญและสายมัธยมอาชีวศึกษาภาษาต่างประเทศ
- พ.ศ. 2493 เปิดสอนแผนกศึกษาผู้ใหญ่แผนกพิมพ์ดีดไทย - อังกฤษ และแผนกบัญชีร้านค้าขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเรียน 3 เดือน ระหว่าง 17.00 - 19.00 น. และแผนกนี้ได้ยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2512
- พ.ศ. 2495 เปิดสอนแผนกอาชีวศึกษาชั้นสูง แผนกภาษาต่างประเทศและเลขานุการ หลักสูตรนี้เน้นไปใน ทางธุรกิจ รับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าเรียนต่อ เป็นหลักสูตร 3 ปี โดยได้รับนักเรียนหญิง เข้าเรียนในแผนกนี้ด้วยเป็นจำนวน 13 คน ในรุ่นแรกบพิตรพิมุขจึงได้มีนักเรียนหญิงตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา นับว่าแผนกเลขานุการได้กำเนิดขึ้นในโรงเรียนรัฐบาลเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
- พ.ศ. 2496 เปิดสอนแผนกเสมียนพนักงาน หลักสูตร 2 ปี เพิ่มขึ้นอีกแผนกหนึ่งและได้ยกเลิกหลักสูตรนี้ไปเมื่อ พ.ศ. 2500
- พ.ศ. 2497 เปิดการสอนรอบบ่ายเฉพาะแผนกอาชีศึกษาชั้นสูงและยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2505
- พ.ศ. 2503 โรงเรียนมีนโยบายที่จะขยายการศึกษาด้านอาชีวศึกษาชั้นสูง จึงได้เริ่มยุบชั้นมัธยมปีที่ 1-6 ลงปีละชั้น คงเหลือแต่แผนกอาชีวศึกษาชั้นสูง แผนกภาษาต่างประเทศและเลขานุการ เมื่อปี พ.ศ. 2509
- พ.ศ. 2507 กรมอาชีวศึกษาได้ปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนอาชีวศึกษาใหม่ โดยให้สิทธินักเรียนแผนก อาชีวชั้นสูง ปีที่ 2 เข้าสอบร่วมกับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 (มศ. 5) ของกรมวิสามัญเพื่อรับประกาศนียบัตรชั้นประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย สายสามัญแผนกทั่วไปและเข้าเรียนต่อไปจนจบชั้นปีที่ 3 ก็จะได้รับประกาศนียบัตรอาชีวศึกษาชั้นสูงอีก 1 ฉบับด้วย
- พ.ศ. 2508 เปิดรอบบ่ายขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยรอบเช้าเริ่มเรียนตั้งแต่ 8.00-13.30 น. และรอบบ่ายเริ่มเรียนตั้งแต่ 13.40 - 19.00 น. ดังเช่นในปัจจุบัน
- พ.ศ. 2516 เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกฐานะโรงเรียนขึ้นเป็น "วิทยาลัยบพิตรพิมุข"
- พ.ศ. 2520 เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ภาคค่ำและโอนจากกรมอาชีวศึกษาไปสังกัด วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาโดยเรียกชื่อโรงเรียนว่า "วิทยาเขตบพิตรพิมุข"
- พ.ศ. 2521 เปลี่ยนหลักสูตรการเรียน 3 ปี เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาภาษาต่างประเทศ สาขาวิชาเลขานุการและสาขาวิชาการบัญชี และขยายการศึกษาไปที่ทุ่งมหาเมฆด้วย
- พ.ศ. 2526 กระทรวงศึกษาธิการประกาศแยกเป็น 2 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ และวิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ
- พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ให้แก่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาว่า สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
- พ.ศ. 2536 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคปกติ คณะบริหารธุรกิจ วิชาเอกการบัญชี
- พ.ศ. 2537 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคปกติ คณะบริหารธุรกิจ วิชาเอกภาษาธุรกิจ
- พ.ศ. 2540 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคสมทบ
- พ.ศ. 2542 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี คณะบริหารธุรกิจ ภาคปกติ วิชาเอกการบัญชีและภาษาอังกฤษธุรกิจ และปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคสมทบ วิชาเอกการจัดการทั่วไป ในปีนี้จึงมีการจัดการเรียนการสอนทั้ง 3 ระดับ คือ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี
- พ.ศ. 2543 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคปกติ วิชาเอกการจัดการทั่วไปและยุบการสอนระดับ ปวช. ลงปีละชั้น
- พ.ศ. 2544 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี คณะบริหารรธุรกิจ วิชาเอกการจัดการทั่วไป
- พ.ศ. 2545 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี คณะศิลปศาสตร์ วิชาเอกภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น
- พ.ศ. 2546 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี คณะบริหารธุรกิจ วิชาเอกระบบสารสนเทศ
- พ.ศ. 2547 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปี ภาคสมทบ คณะบริหารธุรกิจ วิชาเอกระบบสารสนเทศ
- พ.ศ. 2548 เปิดสอนหลักสูตรปริญญา 4 ปี คณะบริหารธุรกิจ วิชาเอกการตลาด และคณะศิลปศาสตร์ วิชาเอกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล
[แก้] หน่วยงาน
เปิดทำการสอน 2 คณะคือ
- 1.คณะบริหารธุรกิจ
- 2.คณะศิลปศาสตร์ประยุกต์
[แก้] หลักสูตร
- 1.หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร 4 ปี (ภาคปกติ)
- สาขาวิชาการบัญชี
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ
- สาขาวิชาการจัดการ
- สาขาวิชาการตลาด
- วิชาเอกระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ - พัฒนาซอฟต์แวร์
- 2.หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต หลักสูตร 4 ปี (ภาคปกติ)
- สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น
- สาขาวิชาภาษาจีน
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล
- หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรต่อเนื่อง 2 ปี (ภาคปกติและภาคสมทบ 1,2)
- สาขาวิชาการบัญชี
- สาขาวิชาการจัดการ
- สาขาวิชาการตลาด-การบริหารการตลาด
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ
- วิชาเอกระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ - พัฒนาซอฟต์แวร์
- 3.หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปวส (ภาคเช้า - บ่าย)
- สาขาวิชาการบัญชี
- สาขาวิชาภาษาธุรกิจ
- สาขาวิชาการตลาด
- สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
[แก้] ผู้บริหารชุดปัจจุบัน
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ นางศิริรัตน์ ภาศักดี รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- วิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ ผศ.อุ่นใจ ลิมตระกูล รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ เป็นบทความเกี่ยวกับ โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือ สถานศึกษา ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |